กล้วยตานี พืชท้องถิ่นของ ต.เจ็ดเสมียน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ที่อยู่คู่ชุมชนชาติพันธุ์ไทย-เขมร และมีความสำคัญในการใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนามาช้านาน จนเมื่อเวลาหมุนผ่านโลกได้เปลี่ยนไป รากเหง้าของคนเจ็ดเสมียนยังไม่เปลี่ยนตาม แต่ปรับรูปใหม่เป็นกระเป๋าที่ตัดเย็บจากกาบกล้วยที่มีคุณสมบัติทั้งเบา เหนียวนุ่มและกันน้ำได้ ในชื่อแบรนด์ “ตานีสยาม” นี่จึงไม่ใช่แค่เพียงกระเป๋าแต่คือ “รากเหง้าเล่าอนาคต”
Rad Ri Lab ชวนมองภาพและฟังเรื่องเล่า เพื่อทำความรู้จัดกับของรากเหง้าและการเปลี่ยนแปลงของ “กล้วยผี” สู่ “ตานีสยาม” กับ ธนกร สดใส หรือ กอล์ฟตานีสยาม ที่มีจุดเริ่มต้นของการนำสิ่งที่มีไปต่อยอดเป็นโอกาสใหม่ในโลกปัจจุบันและความพยายามในการผลักดันสู่สากล
จุดเริ่มต้นจาก “ตานี” สู่ “ตานีสยาม”
กอล์ฟเริ่มจากรากเหง้าวัฒนธรรมที่มีในพื้นที่คือการทำบายศรี งานแทงหยวก หรือเครื่องสักการะต่าง ๆ ซึ่งมีกล้วยตานีหลังบ้านเป็นองค์ประกอบหลัก นำมาคิดต่อว่า “จะทำวัตถุนี้ให้แตกต่างกับคนอื่นอย่างไร?” เขาจึงใช้สิ่งที่ได้เรียนมาอย่างเคมีสิ่งทอมาผสานกับต้นทุนที่มีจนกลายมาเป็นตานีที่แตกต่างจากคนอื่น ๆ คือ “หนังกาบกล้วย” วัสดุสำคัญของกระเป๋าตานีสยามที่มีคุณสมบัติติทั้งเบา เหนียวนุ่ม และกันน้ำ
กอล์ฟเล่าต่อว่า เขาเคยผ่านประสบการณ์งานหลายแบบทั้งด้านการขาย การแสดง การทำธุรกิจ เป็นต้น จนทำให้ตกตะกอนว่า แม้ไม่ได้มีเงินทอง ไม่มีศักยภาพ ไม่มีเครื่องจักรที่จะสร้างอุตสาหกรรมได้ แต่ว่าสิ่งที่มีอยู่หลังบ้าน อย่างกล้วยตานีที่สังคมให้คุณค่าว่าคือ “กล้วยผี” นั้นสามารถต่อยอดคุณค่าได้ กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เริ่มจะเปลี่ยนมุมมองของกล้วยตานีให้เป็นมุมบวกมากขึ้น
“ตานีสยาม” คือการดึงเสน่ห์ของสิ่งที่มีอยู่ออกมาเป็น ต้นกล้วยตานีผสานกับวัฒนธรรมไทย-เขมร ซึ่งสิ่งนี้สามารถขับเคลื่อนพลังของชุมชนจนกลายเป็นสิ่งที่จับต้องได้ นั่นคืองานกระเป๋าทุกชิ้นของแบรนด์ตานีสยาม ซึ่งเขาเรียกว่านี่คือ รากเหง้าเล่าอนาคต
มุมมองแบบนวัตกรและการไม่ยอมแพ้คือทุนทางใจที่ทำให้ไปต่อได้
ข้อคิดที่กอล์ฟยึดไว้เสมอกับตัวคือ กล้วยตานีต้องไปต่อได้ แต่ด้วยบริบทภายนอกทำให้เดินต่อได้ยาก บางครั้งเหนื่อย หมดกำลังใจ แต่เมื่อหันหลังกลับมามองคนที่อยู่ข้างหลังก็ทำให้คิดว่า หากเลิกทำคนเหล่านี้จะเดินต่อไปอย่างไร นี่เป็นสิ่งที่เขาคิดถึงและกังวลตลอด
ตอนนี้มีแต่ คำว่า “สู้ ต้องเดินต่อ” และจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เพราะเขาไม่ได้ดูแลแค่ผู้คน แต่ยกทั้งรากเหง้าและวิถีชุมชนไปด้วยกัน
กอล์ฟบอกว่า ความสุขของเขาคือรอบยิ้มของผู้คนหรือผู้เสพงานตานีสยาม และการได้อยู่กับครอบครัว ทำงานกับคนอื่นและผลตอบรับที่กลับมาจากคนอื่น ๆ รอยยิ้มของทุกคนคือกำลังใจที่ดีในการขับเคลื่อนตานีสยามต่อไป
การจะสร้างแบรนด์หนึ่งแบรนด์ขึ้นมา ต้องตกตะกอนของปัญหาและมองหาจุดแข็งเพื่อชูขึ้นให้เด่น ตรงไหนที่เป็นจุดอ่อนต้องแก้ไขให้ดีขึ้น นี่เป็นหนึ่งในคุณสมบัติของนวัตกร ถ้านวัตกรเห็นถึงจุดอ่อนสำคัญของสิ่งที่ทำ เห็นต้นทุนและศักยภาพทุกอย่างหลังจากนี้จะเดินได้ง่ายขึ้น
ตานีสยามต้องเฉิดฉายในวงการแฟชั่นไทยและนานาชาติ
ความหวังของกอล์ฟคือแบรนด์ตานีสยามจะต้องอยู่ในมือของผู้เสพศิลปะสายแฟชั่นทั้งหลายในประเทศและนานาชาติ และตอนนี้เขาเดินหน้ามาแล้วในระดับหนึ่ง นี่นับเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่สำเร็จเกินคาด
ถอดความจาก: ตานีสยาม กระเป๋าหนังกาบกล้วยตานี โดย Rad Ri Lab ชมได้โดยคลิกที่นี่
ภาพประกอบโดย Rad Ri Lab