รู้จักตลาดชายแดนจุดผ่อนปรน (ว้า) บ้านไม้ลัน อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน

Lccal correspondent สร้อยแก้ว คำมาลา

ตลาดว้า บ้านไม้ลัน

ทุกวันอาทิตย์ที่เขตชายแดนประเทศฝั่งพม่า ติดหมู่บ้านไม้ลัน ต.ปางมะผ้า อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน จะมีตลาดนัด ที่ชาวบ้านเรียกติดปากกันว่า “ตลาดว้า” เนื่องเพราะเป็นตลาดนัดที่อยู่ใกล้เขตชุมชนและฐานกองกำลังอีกแห่งของว้าแดง ดังนั้น คนมาจ่ายตลาดส่วนใหญ่จะเป็นชาวว้าที่ออกมาซื้ออาหารและสินค้าจำเป็นเพื่อนำกลับไปยังค่ายทหารและหมู่บ้าน

เช้าวันอาทิตย์ที่หมอกน้ำค้างชุ่มชื้น จุดผ่อนปรนบ้านไม้ลันมีด่านกั้นสำหรับรถและผู้คนเข้าออก ซึ่งหากคนไทยต้องการจะเข้าไปก็ต้องแลกบัตรประชาชนไว้และให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยถ่ายรูปเพื่อเก็บเป็นข้อมูลและคัดกรองความปลอดภัย ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่จะเข้าไปค้าขาย 

ร้านค้าต่างๆ มีมากกว่า 20 ร้านค้า เรียงรายกันไป โดยแบ่งเป็นสองฝั่งถนน ฝั่งซ้ายจะเป็นพ่อค้าแม่ค้าจากไทย และฝั่งขวาจะพ่อค้าแม่ค้าจากว้า  แต่ส่วนใหญ่ร้านค้าก็จะหนักทางซ้าย 

สินค้าส่วนใหญ่เป็นของอุปโภค บริโภค ที่จำเป็น พวกอาหาร เป็นหลัก และอุปกรณ์ช่าง อุปกรณ์ซ่อม หรืออะไหล่มอเตอร์ไซค์ ส่วนร้านของแม่ค้าว้าซึ่งขายอาหารกำลังทอดไก่ชุบแป้งสำหรับพร้อมกิน ทั้งยังมีผักชีกำงามๆ มัดวางขาย  เราอยากถ่ายรูป แต่ด้วยความเกรงใจจึงไม่กล้าถ่าย เนื่องจากทหารว้าอยู่อีกฝั่งนับสิบนาย ทั้งยังเอาเครื่องในวัวมาวางขายด้วยเป็นถุงๆ  เลยทำได้แค่ยิ้ม ทักทาย 

เพื่อนร่วมทางเราทักทายทหารว้าเป็นภาษาไทใหญ่ เหล่าทหารผู้น้อยทักทายและตอบโต้เป็นภาษาไทใหญ่เช่นกัน  ทีแรกเรางงๆ ว่าทำไมทหารว้าและชาวบ้านว้า พูด-ฟัง ไทใหญ่ได้  เพราะคิดว่า ว้าน่าจะมีภาษาของตัวเอง เขาจึงบอกว่า ถึงแม้จะเป็นกองกำลังว้า แต่ในการสู้รบตลอดหลายสิบปีมายาวนาน จะมีการกวาดต้อนไพร่พลมาเป็นคนของตนอยู่แล้ว หากหมู่บ้านไหนแพ้ ก็ต้องไปเป็นคนของอีกฝ่าย ดังนั้น ว้าแถวนี้พูด-ฟังไทใหญ่ได้ 

ตลาดว้าที่นี่จะว่าไปถือว่าเป็นตลาดขนาดไม่เล็กเลย ที่นี่มีร้านอาหารให้นั่งหลายร้าน มีทั้งก๋วยเตี๋ยว ชา กาแฟ ข้าวกล่อง ขนมต่างๆ หลายอย่าง  คาดว่าก่อนนี้คนมาตลาดน่าจะเยอะพอสมควร ถึงมีร้านค้าหลายร้าน และแต่ละร้าน ก็มีโต๊ะนั่งก็มีหลายโต๊ะ  แต่วันนี้ค่อนข้างเงียบเหงา (กลางเดือนธันวาคม 2567)  เราถามพ่อค้าคนไทยว่า บรรยากาศเงียบไปบ้างไหม ในช่วงนี้

ทั้งสองคนรีบพยัก “ใช่ เงียบไปมาก และคนน้อยลง” 

น้องอีกคนที่ขายของบอกว่า “แต่เราก็ต้องขายของ ถึงคนจะน้อย”

ตอนเราไปถึงประมาณ 9.00 น. กว่าๆ คนยังไม่ค่อยเยอะนัก แต่พอสัก 10.00 น. คนก็เริ่มเยอะ ส่วนใหญ่เป็นทหารว้าที่ออกมาเดินเล่นตลาด หาของกิน ทหารทั้งผู้ชายผู้หญิงในชุดสีเขียวล้วน เดินไปมา หน้าตาดูสบายๆ ยิ้มแย้ม เราคะเนอายุน่าจะประมาณ 20 ต้นๆ ยังดูเด็กๆ กัน

ขณะนั่งกินข้าว เสียงของคนไทยและพี่น้องว้า ทักทายกันเป็นภาษาไทใหญ่ คนข้าง ๆ เราบอกว่าเขาแซวกันว่า “พวกเธอจะยิงเราจริงเหรอ” – เป็นคำพูดหยอกเล่นกัน

เราเดินดูชมสินค้า กินข้าวเสร็จ ก็เดินกลับออกมา พูดคุยกับทหารไทยที่เฝ้าด่านนิดหน่อย ถามไถ่ถึงสถานการณ์ตลาดว้า ว่าเงียบลงกว่าเมื่อก่อนหรือไม่ น้องตอบว่า เงียบไปเยอะ  ไม่มีใครกล้าพูดอะไรมาก แต่ก็รับรู้ว่ามันมีบรรยากาศที่อึมครึมอยู่

สายสัมพันธ์พี่น้องสองฝั่งชายแดน

เรามาแวะร้านกาแฟที่หมู่บ้านห้วยเฮียะใต้ หมู่บ้านชาวลาหู่ดำ และได้มีโอกาสโอภาปราศรัยกับชาวบ้าน ถามไถ่ความรู้สึก ว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง 

กังวลไหม ?

พวกเขาพยักหน้ากันเบาๆ ชาวบ้านที่นี่รู้หมดว่าระหว่างไทยและว้ากำลังมีประเด็นกันอยู่ และส่วนใหญ่ก็รอฟังจากผู้ใหญ่บ้านเป็นหลัก แต่ก็มีจับกลุ่มคุยกัน เพราะชาวลาหู่ที่นี่จำนวนไม่น้อยเข้าไปทำไร่(ข้าว) ในพื้นที่เมียนมา ที่ว้าครอบครอง โดยมีชาวว้าเป็นคนงานในไร่ รับจ้างคนไทยทำไร่ บางครอบครัวก็เลี้ยงวัวควายด้วยกัน เพราะชาวลาหู่ฝั่งไทยชอบเอาวัวควายไปปล่อยทางโน้น หรือบางครอบครัวก็มีสายสัมพันธ์เป็นพี่น้องเครือญาติ เพราะแต่งงานกันข้ามพรมแดน

ดังนั้น ภาษาหรือชาติพันธุ์ของกลุ่มว้าแดง  จึงมีทั้งไทใหญ่ ลาหู่แดง ลาหู่ดำ ใช้ภาษาของแต่ละชาติพันธุ์สื่อสารกัน 

“ทางโน้น (ชาวบ้านด้วยกัน) ก็บอกเราเหมือนกันว่า เขาก็ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะมีรบกันไหม แต่เขาบอกเราว่า เขาจะไม่ยิงพวกเราหรอก” 

คุณป้าชาวลาหู่ท่านหนึ่งบอกเรา “ถ้าเขารบกันจริง เราก็ต้องไปต้อนเอาวัวควายเรากลับมา” 

แม้ไม่มีคำพูด แต่ก็รู้ว่าทุกคนมีความกังวล

ในขณะที่ผู้ประกอบการที่พักโฮมสเตย์ ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ที่คาดหวังว่าจะมีรายได้ช่วงไฮซีซั่น แต่เมื่อเกิดสถานการณ์ที่ไม่สู้ดี ก็ส่งผลต่อการลดลงของนักท่องเที่ยว

“มีลูกค้าที่จองแล้ว ยกเลิกบ้างไหม” เราถามน้องซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่กลับมาประกอบการท่องเที่ยวในชุมชนบ้านเกิดห้วยเฮียะใต้

“ไม่มีค่ะ  แต่จะโทรมาถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง เราก็บอกว่า เราอยู่ไกลพอสมควรจากจุดที่เป็นปัญหา ดังนั้น ไม่มีผลกระทบมาถึงที่นี่แน่นอน  นักท่องเที่ยวมาเที่ยวได้ตามปกติค่ะ แต่เหมือนนักท่องเที่ยวเขาจะกลัวหรือเปล่าไม่รู้ นักท่องเที่ยวดูลดลงไปจริงๆ ปีนี้เงียบกว่าปีที่แล้วมาก” น้องบอกด้วยน้ำเสียงกังวล
“พี่จะเขียนเรื่องนี้เหรอคะ พี่ช่วยสื่อหน่อยนะคะ  หนูอยากให้บอกคนทั่วไปเข้าใจว่า แม่ฮ่องสอนมาเที่ยวได้ ปัญหาชายแดนไม่เกี่ยวกับเรา อยากให้มาเที่ยวกันตามปกติ ที่กิกอคอยังสวยเหมือนเดิม” 

“กิกอคอ” คือยอดภูเขาสูง ที่เป็นเอกลักษณ์ของหมู่บ้านห้วยเฮียะใต้ ด้วยทำเลที่ตั้งสูงกว่าระดับน้ำทะเลกว่าพันเมตร ป่าที่นี่มีต้นสนสองใบสามใบขึ้นสูงสล้าง ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ระดับความสูง ทำให้อากาศที่นี่โปร่งเบา หายใจโล่ง ปลอดโปร่งมาก อีกทั้งอากาศหนาวเย็นกว่าพื้นที่ราบ 

ที่แห่งนี้ ยังเป็นอีกแห่งที่หากใครแสวงหาความสงบก็แวะมาพักกายใจได้ ซึ่งไกลจากพื้นที่ที่เป็นปัญหาพอสมควร จึงไม่มีผลกระทบใดๆ ไม่ว่าไพ่จะหงายหน้าเป็นอะไร ส่วนสถานการณ์ชายแดนไทย ระหว่างกองทัพและกองกำลังว้า ก็ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องจับตากันต่อไป 

แชร์บทความนี้