
ภาพ : อุทยานการเรียนรู้ป่าไม้แพร่ในปัจจุบัน เครือข่ายประชาสังคมแพร่มูฟ
9 กรกฎาคม 2567 วันนัดส่งมอบบ้านเขียวคืนคนแพร่ บ้านเขียวกลับมาตั้งตระหง่านอีกครั้ง จากการขับเคลื่อนของภาคประชาชนที่เข้ามาอาสาจนถึงขั้นตอนสุดท้าย
ย้อนกลับไปกรณีรื้อถอนอาคารสำนักงานป่าไม้ภาคแพร่ หรือที่เรียกว่า ‘บ้านเขียว‘ เหตุการณ์นี้เกิดในเดือนมิถุนายน ปี 2563 เกือบ 4 ปี ที่มีอาคารเก่าริมแม่น้ำยมหลังหนึ่งถูกทุบทิ้งจนเหลือแต่ซาก เป็นอาคารที่ใครต่อใครเรียกกันว่า อาคารบอมเบย์เบอร์มา ชื่อของบริษัทอังกฤษที่เข้ามาทำสัมปทานไม้ในจังหวัดแพร่เมื่อร้อยกว่าปีก่อน อาคารศูนย์เรียนรู้การป่าไม้ อาคารเรือนไม้ 2 ชั้น สถาปัตยกรรมแบบอาณานิคมประยุกต์ อายุ 127 ปี ถือเป็นอาคารที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของชาว จ.แพร่ ซากอาคารที่ถุกทุบรื้อสร้างความสะเทือนใจจากชาวแพร่และตั้งคำถามหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง จนนำไปสู่การหาแนวทางฟื้นฟูและจัดการอย่างเหมาะสม
บ้านเขียว หรือ อาคารสำนักงานป่าไม้ภาคแพร่ สร้างขึ้นเมื่อปี 2444 มีความสำคัญทางสถาปัตยกรรมและร่องรอยการพัฒนาการป่าไม้แหล่งสำคัญของประเทศ ที่เกิดปัญหาการรื้อถอนซ่อมแซมอย่างผิดวิธีจากผู้รับเหมา ขาดความเข้าใจการอนุรักษ์อาคารเก่า ทำให้เกิดความเสียหายทั้งหลัง จนในที่สุด สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 (แพร่) แก้ไขงบประมาณจำนวน 9 ล้านบาทเศษ เพื่อบูรณะขึ้นมาใหม่ตั้งแต่ปี 2563 ปัจจุบันการฟื้นฟูอาคารบ้านเขียวเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว โดยทางสวนรุกขชาติเชตวัน สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 (แพร่)ได้รับมอบงานจากผู้รับเหมาตามแผนในโครงการอนุรักษ์และพัฒนาศูนย์การเรียนรู้การป่าไม้สวนรุกขชาติเชตวันจังหวัดแพร่ เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยทางสวนรุกขชาติจัดให้มีเวทีประชาคมรับฟังความคิดเห็นของคนในชุมชนและผู้ที่สนใจ พร้อมทั้งเปิดให้เยี่ยมชมบ้านเขียวเป็นวันแรก
สมาคมรักษ์เมืองเก่าแพร่ : APT กล่าวว่า ผู้รับจ้างโครงการปฏิสังขรณ์ อาคารป่าไม้ภาคแพร่หรือที่เคยเข้าใจว่าเป็น บ้านบอมเบย์เบอร์มา ส่งงานงวดสุดท้ายให้คณะกรรมการที่รับผิดชอบตรวจรายละเอียดอาคาร เพื่อรับอาคารในภาคเช้าการตรวจรับอาคารเป็นไปด้วยดี
15:00 น. เจ้าหน้าที่สวนรุกขชาติเชตวัน และ คณะกรรมการตรวจอาคาร รายงานผลการตรวจรับอาคาร รวมถึงตอบรายละเอียดงานปฏิสังขรณ์อาคาร ที่ภาคประชาชนสนใจสอบถาม อาทิ รูปแบบการปฏิสังขรณ์อาคาร วัสดุไม้เดิม รูปแบบและหลักการอนุรักษ์อาคาร ตำแหน่งอาคาร สีของอาคาร เป็นต้น
สมาคมรักษ์เมืองเก่าแพร่ (ภาคีเครือข่ายรักษ์เมืองเก่าแพร่เดิม) เข้าร่วมรับฟัง และขยายรายละเอียดบางส่วน เพื่อไขข้อข้องใจ เกี่ยวกับการฟื้นฟูอาคาร อันเป็นพันธกิจหลักที่ได้อาสาในนามภาคประชาชน ในส่วนการ สืบค้นและติดตามรายละเอียดส่วนงานประวัติศาสตร์ และ ประสานงานฟื้นฟูปฏิสังขรณ์อาคาร
การปฏิสังขรณ์อาคาร ดำเนินการภายใต้หลักการงานอนุรักษ์ โดยอยู่ในการควบคุมของสำนักสถาปัตยกรรมกรมศิลปกร, สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่,โยธาธิการจังหวัด โดยการเฝ้าระวัง และมีส่วนร่วมจากภาคประชาชนผู้สนใจ กระบวนการดังกล่าวดำเนินการไปตามหลักการด้วยดี
อนึ่ง เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรแจ้งข่าวดีต่อประชาชนชาวแพร่จากกระบวนการปฏิสังขรณ์อาคารป่าไม้ภาคแพร่อย่างมีขั้นตอน และดำเนินการอยู่ในหลักการงานอนุรักษ์ รวมถึงการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน อาคารป่าไม้ภาคแพร่ที่ได้ช่วยกันปฏิสังขรณ์ขึ้นมานี้ มีแนวโน้มที่จะได้รับรางวัล สถาปัตย์กรรมอนุรักษ์ ในลำดับถัดไป
ถือเป็นข่าวดีของชาวแพร่ ที่เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจ แก้ไขวิกฤตให้เกิดเป็นโอกาสของเราชาวแพร่ทุกคน อีกทั้งเหตุการณ์ในครั้งนี้ ยังสร้างแรงกระเพื่อมสู่สังคม ในด้านการอนุรักษ์อาคารโบราณสถานทั่วประเทศ ทำให้กรมธนารักษ์อันเป็นหน่วยงานที่มีอาคารทรงคุณค่าในครอบครองจำนวนมาก ได้เริ่มดำเนินการลงทะเบียนอาคารโบราณทรงคุณค่า เพื่อกำหนดแนวทางการอนุรักษ์อาคารต่อไป
อย่างไรก็ตาม สมาคมรักษ์เมืองเก่าแพร่ขอยืนยันหลักการอนุรักษ์โบราณสถาน ควรใช้วิธี อนุรักษ์ก่อนเป็นลำดับแรก วิธีการบูรณะเป็นลำดับถัดมา และปฏิสังขรณ์ เป็นลำดับสุดท้าย
เนื้อหาเพิ่มเติมเกี่ยวกับบ้านเขียว อาคารศูนย์การเรียนรู้ป่าไม้ สวนรุกขชาติเชตวัน
บทเรียนบอมเบย์เบอร์มา สู่ไอเดียสร้างอุทยานการเรียนรู้ป่าไม้แพร่