คักอีหลี“สินไซเมต้าเวิร์ส” ยกระดับภูมิปัญญาสาวะถีสู่โลกไซเบอร์

จิตรกรรมภาพวาดอายุกว่า 150 ปี ที่สิมหรือโบสถ์ของวัดไชยศรี บ้านสาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น เป็นมรดกล้ำค่าที่บรรพบุรุษสร้างไว้ ยังคงงดงาม มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร เป็นเพียงหนึ่งเดียวในภาคอีสาน ที่เล่าเรื่องราววรรณกรรม เรื่อง “สังสินไซ” ในขณะที่โบสถ์ทั่วไปส่วนใหญ่จะเล่าเรื่องราวพุทธประวัติ

เรื่องราววรรณกรรมบนจิตรกรรมฝาผนังถูกนำมาต่อยอดอย่างสร้างสรรค์ กลายเป็นงานแสดงสุดม่วนซื่นประจำชุมชนอย่างหมอลำน้อยร้อยปี หมอลำหุ่นกระติบข้าวของเด็กและเยาวชนชุมชนบ้านสาวะถี ที่นำเอาเรื่องราวสังสินไซมาเล่าผ่านเสียงลำเสียงแคน พร้อมการเชิดหุ่นกระติบข้าว แสดงถึงการเห็นคุณค่า พร้อมสืบสานลวดลายที่แต่งแต้มสิมตั้งแต่ยุคบรรพบุรุษ ให้อยู่เป็นส่วนหนึ่งกับวิถีคนในยุคปัจจุบัน

จากจุดเด่นของเรื่องราวสังสินไซที่ถูกบอกเล่าได้อย่างน่าสนใจโดยคนในชุมชน กลายเป็นจุดดึงดูดให้ผู้คนเข้าไปเยี่ยมชม ทำให้ชุมชนสาวะถีเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่สำคัญของจังหวัดขอนแก่น มีนักท่องเที่ยวมาเยือนไม่ขาดสาย เกิดเป็นเศรษฐกิจสร้างรายได้แก่คนในชุมชน พร้อมพัฒนาสร้างสรรค์อย่างไม่หยุดยั้งจนได้ก่อเกิดบริษัทสินไซโมเดล จำกัด วิสาหกิจเพื่อสังคม เพื่อต่อยอดมรดกทางวัฒนธรรม มีผลิตภัณฑ์สินค้าใช้ภาพจากจิตรกรรมบนสิมมาออกแบบเป็นลวดลายให้กับสินค้าและบริการ

โลกไร้พรมแดนมาเยือนเราอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีพัฒนาไปไกลและเข้าใกล้แม้ในพื้นที่ ต่างจังหวัดชาวชุมชนสาวะถีก็ไม่ยอมหยุดพัฒนาต่อยอดเช่นกัน เพื่อก้าวทันโลกยุค AI  ชุมชนจึงยกสิมโบราณเข้าไปไว้บนโลกออนไลน์ในรูปแบบใหม่นั่นคือรูปแบบเมต้าเวิร์ส หรือ “สินไซเมต้าเวิร์ส”   เพื่อให้นักท่องเที่ยว และผู้ที่สนใจจากทั่วทุกมุมโลกได้เยี่ยมชมวัดไชยศรีผ่านโลกเสมือนจริงพร้อมร่างอวตาร เพียงปลายนิ้วคลิก

โดยเมื่อคลิกเข้าสู่โลกของ “สินไซเมตาเวิร์ส” ด้วยร่างอวตารจะเหมือนเราเดินชมจิตรกรรมฝาผนังด้วยตนเองที่สิมวัดไชยศรีเลย เดินชมรอบๆแล้ว ข้างๆยังมีหนังสั้นกลางแปลงเรื่อง “สาวะถีวิถีสุข” บอกเล่าเรื่องชุมชนสาวะถีที่เป็นหมู่บ้านต้นกำเนิดหมอลำคณะใหญ่ ๆ ของจังหวัดขอนแก่น พร้อมมุมนิทานเรื่องเล่าประวัติชุมชนบ้านสาวะถีโดยคนเฒ่าคนแก่ ที่ขาดไม่ได้เลยคือการแสดงหมอลำหุ่นสินไซน้อยร้อยปีก็มีให้ชม และมีของกิน ของใช้ ของฝาก ที่ทำโดยชุมชน ให้นักท่องเที่ยวจากโลกออนไลน์ได้ช้อปสินค้าผ่านระบบอีกด้วย

เพียงคลิกเดียวก็เที่ยวได้ และจะดีมากหากนักท่องเที่ยวจากโลกออนไลน์เกิดสนใจอยากจะมาเยือนพื้นที่จริงที่ชุมชนสาวะถี  ยังมีประสบการณ์จริงให้ได้สัมผัสเพิ่มเติมอีกมากมาย เห็นได้จากงานวันเปิดตัว “สินไซเมต้าเวิร์ส” เมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมา ที่วัดไชยศรี บ้านสาวะถี ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น  ที่มีการจัดพาข้าวแบบอีสานชื่อ “พาสวยสินไซ” เพื่อโชว์อาหารอีสาน ผ่านพาข้าวโดยมีเมนูอาหารประกอบด้วย ออร์เดิร์ฟคานาเป้ก้อยปลาดุก ตามด้วยเมนูหลักอย่างปลานึ่งแจ่ว ไข่เจียวผักหวาน ขมนจีน หมูแดดเดียว เมนูขนมหวานคือสาคูสังข์สินไซ เพื่อโชว์ความเป็นอีสานผ่านพาข้าวและเรื่องเล่า โดยมีการใช้สีในการจัดแต่งพาข้าวเป็นสีที่ดึงอัตลักษณ์ออกมาจากจิตรกรรมฝาผนังวัดไชยศรี

นอกจากนั้น ยังมีผลิตภัณฑ์ชุมชนที่นำเอาลายจากจิตรกรรมฝาผนังมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ทั้ง ผ้าคลุมไหล่ แก้วกาแฟ แก้วเก็บความเย็น แก้วเก็บความร้อน   หนังสือวรรณกรรมเรื่องสินไซที่มีการแปลเป็น 3 ภาษาคือ ภาษาญี่ปุ่น ฝรั่งเศสและภาษาอังกฤษ โดยโฮงสินไซ  มีไอศกรีมตัวละครสินไซ ประกอบด้วย นางกินรี สินไซ และหอยสังข์  ซึ่งดำเนินการโดย บริษัทสินไซโมเดล จำกัด วิสาหกิจเพื่อสังคม เป็นบริษัทที่ก่อตั้งโดยชาวชุมชนสาวะถี เพื่อต่อยอดมรดกทางวัฒนธรรมของชุมชนคือจิตรกรรมฝาผนังของวัดไชยศรี

พระครูบุญชยากร เจ้าอาวาสวัดไชยศรี เจ้าคณะตำบลสาวะถี ที่ปรึกษาบริษัทสินไซโมเดล จำกัด วิสาหกิจเพื่อสังคม กล่าวว่า สำหรับการพัฒนาสินไซเมต้าเวิร์ส ถือเป็นก้าวสำคัญในการต่อยอดมรดกทางวัฒนธรรมของชุมชนที่มีเพื่อให้คนรู้จักมากยิ่งขึ้น ต่อไปนี้การประชาสัมพันธ์จิตรกรรมฝาผนังวัดไชยศรี หรือ ฮูปแต้มนั้น ก็จะเป็นที่รู้จักในกลุ่มคนกลุ่มใหม่ ๆ ที่เข้าถึงอินเตอร์เน็ตและเกมส์ เพราะสำหรับเด็กรุ่นใหม่แล้ว การดูสินไซเมต้าเวิร์สผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์จะทำให้เข้าชมได้ง่าย สะดวกมากยิ่งขึ้น และเมื่อชมแล้วจะทำให้อยากมาเห็นของจริงและมาเยือนวัดไชยศรีเพิ่มอีกทางหนึ่งด้วย

นางสุมาลี สุวรรณกร ผู้ประสานงานโครงการ “สาวะถีดีโคตร” ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการในการจัดทำสินไซเมต้าเวิร์ส โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากแผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สสส. กล่าวว่า การต่อยอดมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของวัดไชยศรีที่คนรู้จักกันในอีกรูปแบบหนึ่ง จะทำให้คนรู้จักสิมหรือโบสถ์วัดไชยศรีมากยิ่งขึ้น และจะทำให้เป็นอีกก้าวสำคัญที่จะทำให้มีการต่อยอดสื่อศิลปวัฒนธรรมที่ชุมชนมีอยู่ในระดับท้องถิ่น เพื่อให้ก้าวไปสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลคือเรื่อง Soft power ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญในการพัฒนาด้านเศรษฐกิจของชุมชนเพราะจะทำให้มีนักท่องเที่ยวมาเยือนชุมชนมากขึ้น และจะดึงเม็ดเงินเข้าชุมชนอีกทางหนึ่งด้วยเช่นกัน

นายสุชาติ พรมมี นักพัฒนาคอมพิวเตอร์ ที่ได้ออกแบบสินไซเมต้าเวิร์ส กล่าวว่า ดีใจที่ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาซอฟแวร์ทำให้คนกลุ่มใหม่ได้มีโอกาสรู้จักโบสถ์วัดไชยศรี และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดขอนแก่นเช่นกัน.

แม้ว่าการอนุรักษ์คือการรักษาสิ่งเก่าให้คงอยู่ แต่หากไม่นำสิ่งใหม่เข้ามาปรับใช้ตามยุคสมัย ก็เป็นไปได้ยากที่จะอนุรักษ์ไว้ ชุมชนสาวะถีเป็นอีกตัวอย่างที่ทำให้เห็นว่า ความดีงามของเก่ายังคงรักษาไว้ พร้อมนำสิ่งใหม่มาช่วยพัฒนา ถ่ายทอดความงดงามล้ำค่าไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของโลก และจะยังไม่หยุดพัฒนาเพียงเท่านี้ ในอนาคตผู้เข้าชมในโลกเสมือน จะได้พบกับเวอร์ชั่นใหม่ ๆ ของสินไซเมต้าเวิร์ส โดยจะสามารถเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นสไตล์อีสาน ด้วยการใส่ผ้าถุง ผ้าโสร่ง แต่งตัวแบบพื้นบ้านเหมือนมาวัด และสามารถกราบไหว้พระได้ และเดินชมโบสถ์พร้อมคำอธิบายเป็นภาษาต่าง ๆ ได้ 5 ภาษา ที่จะเตรียมไว้ เพื่ออำนวยความสะดวก และให้คนที่สนใจมาชมได้สัมผัสประสบการณ์สมจริงมากที่สุด

ลิงก์เข้าชม สินไซเมต้าเวิร์ส : https://www.spatial.io/s/simwadaichysrii-sawatee-65cb342b7bb6c1ab0ed675e0?share=3743098381608603886&fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTAAAR1Pp30vVjiGIFWTOQGeOr_vvBGB6cq0uHZ42IpdbRhxcUwmfKNUo3xo3Xc_aem_ASaf4Rjg2Z0YClna6BfalAnIy3bjLWXot8t8u7g-XwUwLv9KQ7V_EeYIeI3kbEcI9rK2W25a4xavhOsOLJ9qdZ3t

แชร์บทความนี้