นครพนม ขับเคลื่อนสุขภาวะผู้สูงอายุและจัดการขยะ ครอบคลุม 76 พื้นที่ จากพลังเครือข่าย

Node Flagship นครพนม ภายใต้การดำเนินงานของมหาวิทยาลัยนครพนม ในฐานะหน่วยจัดการจังหวัดระดับที่มีจุดเน้นสำคัญ ได้ดำเนินโครงการ “ขับเคลื่อนและขยายผลรูปแบบการสร้างเสริมสุขภาพผู้สูงอายุและการจัดการขยะ” มาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 3 ปี (พ.ศ. 2563–2568) โดยมีเป้าหมายครอบคลุมทุกอำเภอของจังหวัด รวมทั้งสิ้น 76 พื้นที่ โครงการนี้เป็นหนึ่งในความร่วมมือระดับจังหวัดที่ขับเคลื่อนผ่านการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายหลากหลายหน่วยงาน และได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ผ่านสำนักสร้างสรรค์โอกาส (สำนัก 6)

ล่าสุด ได้มีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการสรุปผลลัพธ์และบทเรียนการดำเนินงานโครงการขึ้น ณ ห้องประชุมพนมศิลป์ คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม (เขตพื้นที่มรุกขนคร) โดยมี นายสมชาย แสนลัง รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานภาคีทั้งภาครัฐและท้องถิ่น กว่า 100 คน เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้

ขับเคลื่อนอย่างมียุทธศาสตร์ ครอบคลุม 76 พื้นที่
การดำเนินงานของ Node Flagship นครพนม แบ่งออกเป็นสองประเด็นหลัก ได้แก่ การสร้างเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ และ การจัดการขยะในชุมชน ตลอดช่วงเวลา 3 ปี โครงการครอบคลุมพื้นที่เป้าหมายรวม 76 พื้นที่ โดยแบ่งเป็นแต่ละปี ดังนี้

-พ.ศ. 2563–2564: ขยะ 12 พื้นที่, ผู้สูงอายุ 14 พื้นที่ รวม 26 พื้นที่
-พ.ศ. 2565–2566: ขยะ 9 พื้นที่, ผู้สูงอายุ 16 พื้นที่ รวม 25 พื้นที่
-พ.ศ. 2567–2568: ขยะ 10 พื้นที่, ผู้สูงอายุ 15 พื้นที่ รวม 25 พื้นที่

โครงการย่อยเหล่านี้ เกิดจากการเปิดให้ชุมชนท้องถิ่นเสนอแผนงานเข้ารับการพิจารณา และหลังผ่านการคัดเลือก หน่วยจัดการจังหวัดฯ จะจัดส่งทีมพี่เลี้ยงเข้าไปสนับสนุนการดำเนินงานร่วมกับสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ผลที่ตามมาคือ มีการจัดการขยะอย่างเป็นระบบในระดับชุมชน และเกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรมในกลุ่มผู้สูงอายุ โดยเฉพาะด้านการดูแลสุขภาพ อาทิ การบริโภคอาหารที่เหมาะสม การดื่มน้ำสะอาด การออกกำลังกายสม่ำเสมอ รวมถึงการลด ละ เลิก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และบุหรี่

สรุปบทเรียน สู่เวทีการเรียนรู้และขยายผล
เวทีประชุมสรุปผลที่จัดขึ้นในครั้งนี้ มีทั้งการนำเสนอผลงาน การเสวนา และกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยมีไฮไลต์สำคัญ คือ การเสวนาหัวข้อ “ผลลัพธ์ที่ประทับใจ การขยายผล และบทเรียนที่อยากบอกกล่าว” ซึ่งมีผู้ร่วมเสวนาจากภาคปฏิบัติในพื้นที่ ได้แก่ กัญญ์วรา สิงห์พันธ์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ รพ.สต.นามะเขือ ประสาน คะเนนิล ผู้อำนวยการ รพ.สต.อุ่มเหม้า นพดา คำศิริ สาธารณสุขชำนาญการ พิชชานันท์ ราชวัตร ผู้อำนวยการกองสาธารณสุข เทศบาลตำบลน้ำก่ำ และ เบญจวรรณ เฟืองตลบ หัวหน้าสำนักปลัด อบต.โพนทอง ดำเนินรายการโดย อาจารย์สุมิศา กุมลา และนายอิทธิพล บุญบุตร

นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอภาพรวมของโครงการโดย ผศ.ดร.คณิน เชื้อดวงผุย ผู้จัดโครงการ และการสรุป Work Flow การดำเนินงานโดย ผศ.ดร.เบญจยามาศ พิลายนต์ ผู้ช่วยผู้จัดการโครงการ พร้อมกิจกรรม “Show & Share” นำเสนอผลงานเด่นในแต่ละพื้นที่ นิทรรศการนวัตกรรม และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากโครงการย่อย

พลังภาคี สร้างระบบขับเคลื่อนที่ยั่งยืน
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จ คือ “ภาคีเครือข่าย” ซึ่งมีบทบาทร่วมวางแผน สนับสนุนทรัพยากร และดำเนินงานในระดับพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ภาคีหลักในจังหวัดนครพนม ได้แก่ สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดนครพนม สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครพนม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ความร่วมมือของภาคีเหล่านี้ ทำให้สามารถนำโมเดลต้นแบบไปประยุกต์ใช้ได้จริงในพื้นที่ และยังช่วยต่อยอดไปสู่การขับเคลื่อนเชิงนโยบายในอนาคต

ผศ.ดร.คณิน เชื้อดวงผุย กล่าวว่า การขับเคลื่อนงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ไม่เพียงทำให้เห็นผลลัพธ์เชิงรูปธรรม แต่ยังทำให้เกิดระบบความร่วมมือที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีบุคลากรจากภาคียุทธศาสตร์เข้ามามีบทบาทในงานมากขึ้น และชุมชนมีศักยภาพในการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ

“เราหวังว่าโมเดลนี้จะสามารถถ่ายทอดไปยังจังหวัดอื่น ๆ ได้ในอนาคต โดยอาศัยความร่วมมือของทุกฝ่าย เพราะการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน ต้องเริ่มจากความเข้าใจ และลงมือทำร่วมกันในทุกระดับ”

Node Flagship นครพนม ไม่เพียงแต่ขับเคลื่อนการจัดการปัญหาขยะและสุขภาวะผู้สูงอายุในระดับพื้นที่ แต่ยังเป็นต้นแบบของการประสานพลังระหว่างภาควิชาการ ภาครัฐ และภาคชุมชน อย่างกลมกลืน และกำลังกลายเป็นโมเดลสำคัญที่สามารถส่งต่อผลลัพธ์อันยั่งยืนให้กับจังหวัดอื่น ๆ ได้ต่อไปในอนาคต

ภาพ/บทความ : นครพนมโฟกัส

แชร์บทความนี้