รายงานฉบับนี้สังเคราะห์ข้อมูลจากสำรวจความคิดเห็นประชาชนที่เกี่ยวข้องและใช้ชีวิตในเขตเทศบาลนครขอนแก่น และเก็บรวบรวมจากการรับฟังความคิดเห็นออนไลน์ ระหว่างวันที่ 17-22 เมษายน 2568 ภายใต้ความร่วมมือระหว่างวิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น สำนักข่าว ศูนย์ภูมิภาคขอนแก่น และสำนักเครือข่ายและการมีส่วนร่วมสาธารณะ ไทยพีบีเอส โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกลั่นกรองประเด็นปัญหาและความต้องการเร่งด่วนที่สุดของประชาชนชาวขอนแก่น เสนอต่อว่าที่นายกเทศมนตรี ทีมบริหาร และสาธารณะ เพื่อเป็นแนวทางในการจัดลำดับความสำคัญและผลักดันการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม

ถนนการจราจร ปัญหาสิ่งแวดล้อม ขนส่งสาธารณะ 3 เรื่องสำคัญที่ผู้นำท้องถิ่นต้องตอบคนนครขอนแก่น
จากการสังเคราะห์ข้อมูลทั้งหมด สามารถสรุปเป็นลำดับความสำคัญเร่งด่วนที่ว่าที่นายกเทศมนตรีและทีมบริหารควรให้ความสนใจเป็นพิเศษ ประกอบด้วย
- การแก้ไขปัญหาถนนและการจราจร ลงมือแก้ไขสภาพถนนที่ชำรุด เร่งรัดการก่อสร้างที่ค้างคา ปรับปรุงระบบจัดการจราจร และสื่อสารแผนงานให้ประชาชนทราบอย่างชัดเจน
- การจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อม ดำเนินการแก้ไขปัญหา PM2.5 และการจัดการขยะอย่างจริงจัง พร้อมทั้งวางแผนเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมืองอย่างเป็นรูปธรรม
- การวางรากฐานระบบขนส่งสาธารณะ เริ่มศึกษาและวางแผนพัฒนาระบบขนส่งมวลชนที่มีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนและแก้ไขปัญหาเมืองในระยะยาว
จากการสังเคราะห์ข้อมูลโดยทีมโครงการห้องทดลองปัญญารวมหมู่ พบว่าประเด็นที่ประชาชนชาวขอนแก่นให้ความสำคัญและต้องการให้เกิดการแก้ไขอย่างเร่งด่วน มีรายละเอียดดังนี้
โครงสร้างพื้นฐาน “ถนนและการจราจร” ปัญหาตลอดกาลที่ต้องเร่งแก้ไข
ทั้งผลสำรวจเชิงปริมาณ และเสียงสะท้อนเชิงคุณภาพ ยืนยันตรงกันว่านี่คือความเดือดร้อนอันดับต้นๆ โดยประชาชนไม่ได้มองแค่ภาพรวม แต่ระบุปัญหาชัดเจน
- สภาพถนนที่ย่ำแย่ (“เเก้ถนนที่ไม่เรียบ/ไม่ดี”, “ถนนที่ขรุขระ”)
- ความล่าช้าของการก่อสร้าง/ซ่อมแซม ที่ส่งผลให้เกิด ปัญหารถติด (“รีบทำถนน”, “ถนนซ่อมให้เสร็จทุกเส้น”, “ปัญหารถติดจากการทำถนน”)
- ความปลอดภัยในการสัญจร และ การจัดการจราจรที่ดีขึ้น (“อยากได้ถนนปลอดภัย”, “ตีเส้นจราจร”, “เลิกเปิดไฟจราจรพร้อมกัน”) เป็นต้น
สภาพโครงข่ายถนน ข้อเรียกร้องเหล่านี้สอดคล้องกับสถานการณ์จริงที่มีการดำเนินโครงการซ่อมแซมถนนสายหลักด้วยงบประมาณเกือบ 30 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานประสบปัญหาความล่าช้าอันเนื่องมาจากมีรถยนต์จอดกีดขวางพื้นที่ทำงาน ซึ่งสะท้อนถึงความท้าทายในการบริหารจัดการโครงการและการประสานงานกับสาธารณะ ขณะเดียวกัน มีแผนการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เช่น ทางแยกจุดตัดเมืองเก่า เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรในระยะยาว แสดงให้เห็นถึงการตระหนักถึงปัญหาในระดับยุทธศาสตร์ แต่ยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างทันท่วงที สภาพถนนที่ไม่ได้มาตรฐานส่งผลกระทบโดยตรงต่อระยะเวลาเดินทาง ค่าซ่อมบำรุงยานพาหนะ และความปลอดภัยในการสัญจร ข้อเรียกร้องให้ “ตีเส้นจราจร” บ่งชี้ถึงปัญหาการขาดการบำรุงรักษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งส่งผลต่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพการไหลเวียนของการจราจร นอกจากนี้ ปัญหาในอดีตเกี่ยวกับการบุกรุกพื้นที่ถนน อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของโครงข่ายถนนโดยรวม ปัญหาคุณภาพถนนที่เกิดขึ้นซ้ำซาก แม้จะมีความพยายามในการซ่อมแซม อาจบ่งชี้ถึงปัญหาเชิงระบบในกระบวนการบำรุงรักษา การจัดสรรงบประมาณ หรือการบริหารจัดการผู้รับเหมา
ปัญหาการจราจรติดขัด การจราจรติดขัดเป็นปัญหาสะสมเรื้อรัง ที่มีสาเหตุซับซ้อนหลายประการ อาทิ ปริมาณรถยนต์ที่สูง, ข้อจำกัดของโครงข่ายถนน (ถนนแคบ, มีทางแยกถี่), ผลกระทบจากการก่อสร้างซ่อมแซมถนน, ปัญหาจังหวะสัญญาณไฟจราจร (“เลิกเปิดไฟจราจรพร้อมกัน”), และพฤติกรรมของผู้ขับขี่รวมถึงการขาดการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง (การจอดรถกีดขวาง, การตั้งวางสิ่งของ) แม้จะมีโครงสร้างพื้นฐานอย่างอุโมงค์ทางลอด ก็ช่วยบรรเทาปัญหาได้เพียงระดับหนึ่งเท่านั้น การมีแผนปรับปรุงทางแยกเป็นแนวทางแก้ไข แต่ก็เป็นการแก้ปัญหาเพียงมิติเดียว ขณะที่ ยอมรับถึงความเครียดที่เกิดจากปัญหารถติด ปัญหาจราจรติดขัดเป็นอาการของความไม่สมดุลในระบบที่ซับซ้อน การแก้ไขจึงต้องการยุทธศาสตร์ที่หลากหลายและบูรณาการ มากกว่าเพียงแค่การสร้างถนนเพิ่ม การที่สาเหตุมีหลายปัจจัยเชื่อมโยงกัน และการแก้ปัญหาเฉพาะจุด เช่น การสร้างอุโมงค์ให้ผลจำกัด ชี้ให้เห็นว่าแนวทางแก้ปัญหาแบบแยกส่วนนั้นไม่เพียงพอ จำเป็นต้องใช้แนวทางองค์รวม

สิ่งแวดล้อม คุณภาพชีวิตที่ต้องการการดูแล
ปัญหาสิ่งแวดล้อมปรากฏเป็นความกังวลสำคัญทั้งในผลสำรวจและในเสียงสะท้อนเชิงคุณภาพ ความกังวลหลักได้แก่
- มลพิษทางอากาศ (PM2.5)
- การจัดการขยะที่มีประสิทธิภาพ
- ความต้องการที่ชัดเจนในการ เพิ่มพื้นที่สีเขียว เพื่อเป็นปอดของเมืองและที่พักผ่อนหย่อนใจ
คุณภาพอากาศ (ฝุ่น PM2.5) ขอนแก่นเผชิญกับปัญหามลพิษฝุ่น PM2.5 ในระดับที่รุนแรง โดยบางครั้งมีค่าสูงติดอันดับต้นๆ ของประเทศ แหล่งกำเนิดหลักมาจากการจราจรและการเผาในที่โล่ง มาตรการที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน ได้แก่ การฉีดล้างถนน , การแจ้งเตือนข้อมูลและคำแนะนำด้านสุขภาพ , และการรณรงค์ส่งเสริมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม (สวมหน้ากาก, ลดการเผา, ลดการใช้รถยนต์) ปัญหา PM2.5 มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับปัญหาการจราจรติดขัด และอาจเชื่อมโยงกับการจัดการขยะ การแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพจึงจำเป็นต้องจัดการที่ต้นเหตุเหล่านี้ควบคู่กันไป
การจัดการขยะ จังหวัดขอนแก่นมีปริมาณขยะมูลฝอยเกิดขึ้นจำนวนมาก (ประมาณ 1,040 ตัน/วัน) โดยศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยหลักที่บ้านคำบอนประสบปัญหาพื้นที่ฝังกลบเต็มความจุแล้ว นอกจากนี้ เทศบาลยังเผชิญความท้าทายด้านค่าธรรมเนียมการจัดเก็บและอุปกรณ์ที่ไม่เพียงพอ แม้จะมีโครงการริเริ่มที่ดีในระดับชุมชน เช่น โครงการ “ขอนแก่น Zero Waste” ที่ส่งเสริมหลัก 3R (Reuse, Reduce, Recycle) และประสบความสำเร็จในการลดปริมาณขยะในพื้นที่นำร่อง แต่การขยายผลให้ครอบคลุมทั้งเมืองยังเป็นเรื่องท้าทายเมื่อพิจารณาจากข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ ขณะที่หลักการจัดการขยะและกรอบการทำงานระดับประเทศ เห็นได้ชัดถึงความแตกต่างระหว่างความสำเร็จของโมเดลการจัดการขยะในระดับชุมชน กับความเป็นจริงของโครงสร้างพื้นฐานการจัดการขยะระดับเมืองที่กำลังประสบปัญหา
พื้นที่สีเขียวและพื้นที่สาธารณะ ความต้องการ “เพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมือง” ไม่เพียงแต่ตอบสนองด้านนันทนาการและสุนทรียภาพ แต่ยังอาจมีส่วนช่วยด้านสิ่งแวดล้อม ข้อเรียกร้องให้สวนสาธารณะเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง (Pet-friendly) สอดคล้องกับแนวโน้มทางสังคมที่เพิ่มขึ้น ซึ่งภาคเอกชน เช่น ห้างสรรพสินค้า และโครงการที่อยู่อาศัย เริ่มปรับตัวตอบรับแล้ว แต่ยังไม่มีข้อมูลนโยบายที่ชัดเจนสำหรับ สวนสาธารณะ ของเทศบาลนครขอนแก่นในประเด็นนี้ อย่างไรก็ตาม มีการกล่าวถึงการดูแลสวนสาธารณะเดิม เช่น บึงแก่นนคร และบึงทุ่งสร้าง ประชาชนต้องการพื้นที่สาธารณะที่ไม่เพียงแต่เป็นพื้นที่สีเขียว แต่ยังต้องสามารถรองรับวิถีชีวิตสมัยใหม่ได้
ขนส่งสาธารณะ ความหวังของการเดินทางในเมือง
แม้ในผลสำรวจอาจไม่ใช่ประเด็นที่มีสัดส่วนสูงสุด แต่พบเสียงสะท้อนที่ชัดเจนและต้องการ “ขนส่งมวลชนแบบจริงจัง” เช่น รถเมล์หรือรถไฟฟ้า แสดงให้เห็นว่ามีประชาชนกลุ่มหนึ่งที่มองว่านี่คือทางออกสำคัญของปัญหาการจราจรและความแออัดในเมือง รวมถึงการเข้าถึงบริการ เช่น รถรอบดึก
ช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างความต้องการของประชาชนกับบริการที่มีอยู่ในปัจจุบัน ระบบขนส่งในมหาวิทยาลัยขอนแก่น (KKU Smart Transit – KST) แสดงให้เห็นว่าการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เป็นไปได้ แต่ระบบขนส่งสาธารณะทั้งเมืองกลับประสบปัญหา รถเมล์ City Bus มีข้อจำกัดด้านเส้นทาง ความถี่ และประสบปัญหาทางการเงิน โครงการรถไฟฟ้ารางเบา (LRT) แม้จะเป็นโครงการที่มีความมุ่งมั่นจากท้องถิ่น และถูกวางให้เป็นโครงการนำร่องระดับภูมิภาค แต่กลับหยุดชะงักเนื่องจากปัญหาด้านเงินทุน ข้อกฎหมาย และอุปสรรคในการขออนุมัติจากส่วนกลาง รวมถึงเหตุการณ์รถต้นแบบเกิดไฟไหม้ ยิ่งไปกว่านั้น การย้ายสถานีขนส่งผู้โดยสาร ยังส่งผลกระทบต่อการเชื่อมต่อการเดินทาง ขอนแก่นมีความมุ่งมั่นที่จะมีระบบขนส่งมวลชนที่ทันสมัย (LRT) แต่ในความเป็นจริงยังประสบปัญหาในการให้บริการรถเมล์พื้นฐานให้มีประสิทธิภาพครอบคลุมทั้งเมือง ความล่าช้าของโครงการ LRT ถือเป็นคอขวดสำคัญของแผนการเดินทางในอนาคต อุปสรรคที่โครงการ LRT เผชิญ สะท้อนให้เห็นถึงความยากลำบากขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการผลักดันโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่
โจทย์ชีวิตทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตคนนครขอนแก่น?
เศรษฐกิจ ผลสำรวจเชิงปริมาณอาจชี้ว่าปัญหาเศรษฐกิจ/ค่าครองชีพเป็นเรื่องใหญ่ แต่เสียงสะท้อนเชิงคุณภาพจากการสำรวจครั้งนี้มีจำนวนไม่มากนัก อาจกล่าวได้ว่าประชาชนมองหาแนวทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจในภาพรวม หรือมองว่าปัญหาโครงสร้างพื้นฐานที่กระทบชีวิตประจำวันนั้นเร่งด่วนกว่าในมุมที่เทศบาลจะแก้ไขได้โดยตรง
อย่างไรก็ตาม มีข้อเสนอให้ “ตั้งบริษัทหารายได้เข้าท้องถิ่น” และความสนใจในการ “จัดการ บขส เก่า” ซึ่งสอดคล้องกับโครงการพัฒนาสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 1 (บขส.เก่า) ให้เป็นตลาดคนเมือง 24 ชั่วโมง ที่กำลังดำเนินการ โดยมีงบประมาณเริ่มต้น 1.34 ล้านบาท และกำหนดเป้าหมายเปิดให้บริการระยะที่ 1 ในเดือนตุลาคม 2566 โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว โดยมีกลไกสนับสนุนผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ และเน้นความร่วมมือและการวางแผนที่ยั่งยืน โครงการนี้เป็นโครงการที่ประชาชนจับตามองและคาดหวังสูง
ประเด็นน่าสนใจอื่นๆ เสียงสะท้อนจาก wordcloud ยังชี้ให้เห็นความต้องการเฉพาะด้านที่น่าสนใจ ได้แก่
- การปรับปรุง ไฟฟ้าส่องสว่าง เพื่อความปลอดภัย (“เสาไฟอยากให้สว่างๆๆๆ”, “ไฟถนน รอบนอกตัวเมืองอันตรายมาก”) ซึ่งอาจสะท้อนความไม่เท่าเทียมในการบริการ
- การแก้ปัญหาน้ำท่วม/คุณภาพน้ำประปา “ปัญหาน้ำท่วมบางพื้นที่ในเมือง”, “น้ำสะอาดไม่ต้องซื้อกรองน้ำ” แม้จะมีระบบ GIS คาดการณ์น้ำท่วม แต่ปัญหายังเกิด อาจมีช่องว่างระหว่างการคาดการณ์และการป้องกัน/แก้ไขจริง และสะท้อนความไม่ไว้วางใจในบริการพื้นฐาน
- การดูแล สวัสดิการกลุ่มเฉพาะ (อปพร.) “ดูแล อปพร ด้วย” ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการบรรเทาสาธารณภัย และดูแลความสงบเรียบร้อย ประชาชนเห็นความสำคัญและต้องการให้สนับสนุน
- การสร้าง พื้นที่สาธารณะที่ตอบโจทย์ “สวนสาธารณะทุกแห่ง Pet friendly” “ที่แสดงหมอลำแบบเก็บเสียง”
- การส่งเสริม ความโปร่งใส (Open Data) “Opendata”, “แผนเรื่องร้องเสนอแนะ” ซึ่งเทศบาลกำลังขับเคลื่อนวาระ “เมืองอัจฉริยะ” (Smart City) และมีแพลตฟอร์มดิจิทัลข้อมูลเมือง (CDDP), ระบบ GIS, ระบบภาษีและทรัพย์สิน, และ Open Data portal ความท้าทายคือการทำให้เทคโนโลยีเหล่านี้ แก้ปัญหาที่ประชาชนให้ความสำคัญสูงสุดได้อย่างแท้จริง
ทุกคนที่อ่านรายงานชิ้นนี้มาถึงตรงนี้ สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการบอกความต้องการที่ตอบสนองคนพื้นที่และคนที่ใช้ชีวิตในนครขอนแก่น ได้โดยการสแกนคิวอาร์โค้ดด้านล่าง แล้วระบุประเด็นหรือโจทย์สำคัญของคนขอนแก่น ที่อยากให้ผู้นำท้องถิ่นร่วมกันคนในพื้นที่ช่วยกันจัดการ นอกจากนั้นทีมงานห้องทดลองปัญญารวมหมู่ยังมีแพลตฟอร์ม เทศบาลใกล้ฉัน ที่เปิดให้ทุกท่านเข้าไปสำรวจงบประมาณ และลองจัดสรรงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้ตัวท่าน โดยจะตามหมวดหมู่ได้