ช่วงเวลาก่อนเริ่มต้นปีใหม่ ระหว่างที่ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา พบว่ามีช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ออกมาทำร้ายประชาชนที่ขับรถมาบนถนนสาย 3076 จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน รถยนต์ได้รับความเสียหาย กลายเป็นข่าวเตือนภัยและบอกเล่าถึงสถานการณ์ช้างป่าภาคตะวันออกที่วันนี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่าย ๆ
ข้อมูลจากศูนย์ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสัตว์ป่า รายงานสถานการณ์ช้างป่า ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ว่าปัจจุบันมีประชากรช้างป่าอยู่ประมาณ 4,013 – 4,422 ตัว การกระจายอยู่ใน 16 กลุ่มป่า 93 พื้นที่ป่าอนุรักษ์ มีปัญหาช้างป่าออกนอกพื้นที่อนุรักษ์ 70 แห่ง โดยมี 5 กลุ่มป่าหลักที่ได้รับผลกระทบจากช้างป่ารุนแรง ได้แก่ กลุ่มป่าตะวันตก, กลุ่มป่าแก่งกระจาน, กลุ่มป่าภูเขียว-น้ำหนาว, กลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ และกลุ่มป่าตะวันออก
มีช้างป่าออกนอกพื้นที่ 5 กลุ่มป่า รวม 13,055 ครั้ง สร้างความเสียหายต่อชีวิต ทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตรของประชาชนจำนวนมาก กลายเป็นปัญหาเรื้อรังของสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่าที่ต่อเนื่องยาวนานนับสิบปี
ความไม่สมดุลของประชากรช้างป่ากับพื้นที่ป่าอนุรักษ์ การลดลงของแหล่งอาหารและที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติ รวมถึงพฤติกรรมช้างที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นสาเหตุสำคัญให้ช้างป่าออกมาหากินใกล้ชุมชนและพื้นที่เกษตรกรรมมากขึ้น คือโจทย์ใหญ่ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องช่วยกันหาทางออกเพื่อลดความสูญเสียและความขัดแย้งของคนกับช้างป่าโดยเร็วที่สุด
ด่านหน้าที่มีความสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหาช้างป่าทุกวันนี้ คงหนี้ไม่พ้นบรรดาเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าต่างๆ รวมถึงชาวบ้านที่ร่วมเป็นอาสาสมัครพิทักษ์ช้างป่า ซึ่งแต่ละวันจะมีภารกิจหลักในการเฝ้าระวัง แจ้งเตือนและผลักดันช้างป่าที่ออกมาหากินในชุมชนให้กลับเข้าไปยังพื้นที่ป่าอนุรักษ์ เพื่อลดผลกระทบและความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นกับประชาชน
คืนวันสิ้นปีต่อเนื่องถึงวันปีใหม่คงไม่ต่างกับทุกๆ คืน ที่ตลอดแนวรั้วและคูกั้นช้าง จะมีชุดเฝ้าระวังช้างป่าฯ รวมถึงบรรดาอาสาพิทักษ์ช้างป่าออกมาเดินตรวจตรา ก่อกองไฟและผูกเปลนอนเฝ้าทางเข้าออกของช้างป่า และนี่คือส่วนหนึ่งในภารกิจของพวกเขา ที่ช่างภาพ ภานุมาศ สงวนวงษ์ และ กฤษณ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร จาก Thai News Pix บันทึกเหตุการณ์ไว้
01
ช้างป่าเดินข้ามถนนไปยังเขตชุมชนและบ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่ ต.หนองใหญ่ อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี หลังเข้าไปกินต้นปาล์มของชาวบ้านได้รับความเสียหาย โดยมีเจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานฯ และอาสาผลักดันช้างป่า ช่วยกันไล่ต้อนช้างให้กลับไปยังพื้นที่ป่านอกเขตชุมชน
ปัญหาช้างป่าออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ได้รับความสนใจจากสังคมอีกครั้ง หลังมีการรายงานข่าวว่ามีช้างป่ากว่าร้อยตัวออกมาหากินนอกเขตป่าอนุรักษ์ในพื้นที่ทำกินของชาวบ้านซึ่งเป็นไร่อ้อยที่ ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี และ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการให้ตั้งศูนย์บัญชาการระดับพื้นที่ เพื่ออำนวยการแก้ไขปัญหาและกำหนดมาตรการ ในการผลักดันช้างป่ากลับคืนสู่พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เพื่อป้องกันช้างป่าออกมานอกพื้นที่ ทำลายพืชผลทางการเกษตร รวมถึงบ้านเรือนประชาชนหรือทำร้ายประชาชนจนบาดเจ็บและเสียชีวิต พร้อมทั้งมอบหมายให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังช้างป่า ร่วมกับกลุ่มเครือข่ายเฝ้าระวังช้างป่าในพื้นที่ รวมถึงสร้างคูกันช้างป่า รอบพื้นที่ป่าอนุรักษ์ จัดทำทุ่งหญ้า แหล่งน้ำ แหล่งอาหาร และโป่งเทียมในพื้นที่
อย่างไรก็ตาม หลายปีที่ผ่านมามีความพยายามของหลายภาคส่วน ในการดำเนินการและแสวงหาแนวทางแก้ปัญหาด้วยวิธีการต่างๆ แต่พบว่ายังไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในพื้นที่รอยต่อป่าตะวันออก 5 จังหวัด รอบเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ซึ่งยังพบว่ามีรายงานข่าวผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากช้างป่าอยู่อย่างต่อเนื่อง
02
ชาวบ้านในพื้นที่ ต.หนองใหญ่ อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เฝ้าระวังช้างป่าชื่อ “มะม่วง” ไม่ให้เข้ามาทำลายทรัพย์สินภายในบ้าน หลังก่อนหน้านี้เคยผ่านมารื้อข้าวของที่บ้านแล้วครั้งหนึ่ง
แม้จะโชคดีที่วันนี้ “มะม่วง” ไม่ได้แวะเข้าบ้าน แต่การใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่หรือบนเส้นทางหากินของช้างป่า ก็ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ และต้องพยายามปรับตัวและต้องระมัดระวังทุกครั้งเมื่อต้องออกไปทำงานในสวนของตนเอง รวมถึงการเก็บข้าวของเครื่องใช้ โดยเฉพาะเครื่องปรุงและอาหารในห้องครัว เพื่อลดกลิ่นอาหารที่จะไปดึงดูดให้ช้างป่าเข้ามากิน
03
แนวรั้วและคูกั้นช้างในพื้นที่ อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ที่ได้รับความเสียหายจากช้างป่า กลายเป็นหนึ่งในช่องทางประจำที่ช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ใช้เดินออกจากป่าเพื่อไปหาแหล่งอาหารใกล้กับชุมชนและพื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้าน
มาตรการป้องกันช้างป่าออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ เช่น การสร้างรั้วไฟฟ้า การขุดคูกันช้าง รวมถึงการบำรุงซ่อมแซมในส่วนที่ชำรุดหรือเสียหาย เป็นส่วนหนึ่งของกรอบแนวคิดในการจัดการแก้ไขปัญหาช้างป่าในพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก ขณะที่ในปัจจุบันพบว่าหลายพื้นที่ยังมีจุดชำรุดที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข หรือปรับปรุงรูปแบบให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงกลายเป็นจุดอ่อนของมาตรการแก้ปัญหาช้างป่า ที่ยังต้องการความชัดเจนและงบประมาณที่เพียงพอ
04
เจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 ปราจีนบุรี 2 (ศรีราชา ขสป.เขาอ่างฤาไน) ขสป.เขาเขียว – เขาชมภู่ ขสป.เขาสอยดาว ขสป.คลองเครือหวาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ส่วนอุทยาน ส่วนสัตว์ป่าและส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า รวมถึงองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นกว่าร้อยนาย สนธิกำลังติดตามและผลักดันช้างป่าในพื้นที่ ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ให้กลับยังพื้นที่ป่าอนุรักษ์ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤไน จ.ฉะเชิงเทรา อย่างต่อเนื่อง หลังก่อนหน้านี้ พบว่ามีช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน กว่า 100 ตัว ออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ มาหากินในไร่อ้อยของชาวบ้านจนได้รับผลกระทบจำนวนมาก เมื่อ 6 – 7 ธ.ค. 2566 ที่ผ่านมา
05
เจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานฯ และอาสาพิทักษ์ช้างป่า ต.หนองใหญ่ อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี ร่วมกันไล่ต้อนช้างป่าออกจากสวนปาล์มของชาวบ้าน หลังช้างเดินเข้ามาล้มต้นและกินยอดปาล์มของชาวบ้านได้รับความเสียหายหลายต้น
การทำงานร่วมกันของเจ้าหน้าที่กับชาวบ้านที่เป็นกลุ่มอาสาฯ เป็นหนึ่งในแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในชุมชนได้เป็นอย่างดี และเป็นการสร้างเครือข่ายระหว่างเจ้าหน้าที่และชาวบ้านด้วยกันเองในการจัดการปัญหาช้างป่าในระยะยาวได้ด้วย เพราะลำพังกำลังเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯ นั้น มีจำนวนไม่เพียงพอ หากเทียบกับขนาดของพื้นที่และสภาพปัญหาช้างป่ารอบเขตป่าอนุรักษ์
06
อาสาพิทักษ์ช้างป่าจุดปะทัดลูกบอลเข้าไปในบริเวณที่คาดว่าช้างน่าจะหลบอยู่ ระหว่างการผลักดันช้างออกจากพื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้าน ซึ่งโดยปกติแล้วการจุดพลุหรือการทำเสียงดังเพื่อไล่ช้าง จะต้องใช้ด้วยความระมัดระวังและโดยผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับช้างมากพอ เนื่องจากว่า หากมีการใช้ในพื้นที่ชุมชนอาจทำให้ช้างตกใจหรือมีความเครียด และอาจจะกลับมาทำร้ายคนหรือทำลายทรัพย์สินของชาวบ้านได้
07
อาสาพิทักษ์ช้างป่าในพื้นที่ อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา เดินสำรวจรอยเท้าและเส้นทางเดินของช้างป่า ระหว่างการผลักดันช้างป่าที่เข้ามากินข้าวในนาของชาวบ้านช่วงฤดูเก็บเกี่ยว
08
เจ้าหน้าที่และอาสาพิทักษ์ช้างป่าในพื้นที่ อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี พูดคุยกับชาวบ้านหลังได้รับข้อมูลว่ามีช้างป่าผ่านเข้ามาในบริเวณชุมชน และเข้าตรวจสอบร่องรอยความเสียหายในพื้นที่
09
เจ้าหน้าที่ใช้อากาศยานไร้คนขับระยะไกล (โดรน) ตรวจจับความร้อน บินเข้าไปตรวจสอบจำนวนและทิศทางของช้างป่าที่หลบซ่อนตัวในไร่อ้อยช่วงกลางคืน ระหว่างติดตามและผลักดันช้างป่าในพื้นที่ ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
จากข้อมูลของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พบว่าในอนาคตจะมีการใช้โดรนตรวจจับความร้อนเพื่อช่วยในการสำรวจประชากรช้างป่าทั้งประเทศ เพื่อให้ได้ตัวเลขที่ชัดเจนมากขึ้นและผลักดันช้างป่าออกจากแนวเขตระหว่างรอยป่ากับชุมชน รวมทั้งจะเป็นการช่วยเพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงและความสูญเสียในชีวิตของเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนและผลักดันช้างป่ามากขึ้นด้วย
10
เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนและผลักดันช้างป่าในพื้นที่ ต.หนองเสือใหญ่ อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี ปีนขึ้นบนยอดไม้เพื่อสำรวจและระบุตำแหน่งช้างป่าที่ไปหลบอยู่ในไร่อ้อยใกล้บ้านเรือนประชาชน เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ที่ต้องเดินเท้าเข้าไปไล่ต้อนและผลักดันช้าง เนื่องจากไร่อ้อยมีความรกทำให้ยากที่จะระบุทิศทางการเดินและหาตำแหน่งช้างปป่าในระหว่างที่เดินพื้นราบได้
11
ภาพมุมสูงจากโดรนทำให้สามารถเห็นตำแหน่งและจำนวนช้างป่าที่หลบอยู่ในไร่อ้อยได้อย่างชัดเจน สามารถนำข้อมูลมาใช้รายงานเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนและผลักดันช้างป่าที่ต้องเดินเท้าเข้าไปในพื้นที่เพื่อประเมินความเสี่ยง ระหว่างการผลักดันช้างป่าได้เป็นอย่างดี
12
เจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็วเฝ้าระวังติดตามผลักดันและแก้ไขปัญหาช้างป่าช้างป่าออกหากินนอกพื้นที่ เดินส่องไฟเฝ้าระวังช้างป่าตามแนวคูกั้นช้าง จุดช้างป่าเข้า-ออกในพื้นที่ ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา หลังก่อนหน้านี้พบว่ามีช้างป่าจำนวนมากออกจากพื้นที่ป่าอนุรักษ์ผ่านช่องทางคูกั้นช้างที่ชำรุด ออกไปหากินในพื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้าน โดยเฉพาะไร่อ้อยซึ่งกำลังอยู่ในช่วงตัดอ้อยส่งเข้าโรงงานน้ำตาล
13
เจ้าหน้าที่จากเขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบน จังหวัดจันทบุรี ร่วมภารกิจเฝ้าระวังช้างป่าและแก้ไขปัญหาช้างป่าออกหากินนอกพื้นที่ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา จุดไฟและเตรียมความพร้อมระหว่างเฝ้าช่องทางคูกั้นช้างที่ชำรุด ป้องกันช้างออกจากพื้นที่ป่าอนุรักษ์ โดยมีการใช้รถไถมาร่วมในการทำงานเพื่อสร้างเสียงดังตามแนวรั้วกันช้างและเพื่อความปปลอดภัยกรณีต้องมีการผลักดันช้างเข้าป่า
ภาพและเนื้อหา โดย ภานุมาศ สงวนวงษ์ และ กฤษณ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร จาก Thai News Pix