
เลือกตั้งท้องถิ่น ประชาชนยังต้องการ น้ำไหลไฟสว่างทางดี เลือกบุคคลมากกว่าพรรคหรือนโยบาย กระสุนไม่ใช่ปัจจัยหลักในการเลือก

ในรายการอีสานขานข่าว ตอน “จับตาเลือกตั้งเทศบาล ความหวังของคนท้องถิ่น” ซึ่งออกอากาศ 5 พฤษภาคม 2568 ก่อนการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลในวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศิริศักดิ์ เหล่าจันขาม คณบดีวิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ ดร.ประเทือง ม่วงอ่อน อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ได้ร่วมวิเคราะห์ความสำคัญของการเลือกตั้งท้องถิ่นและปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของประชาชน โดยเน้นย้ำว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโอกาสกำหนดอนาคตคุณภาพชีวิตของชุมชน ตั้งแต่ “ก่อนเกิดถึงหลังตาย”

ดร.ศิริศักดิ์ เหล่าจันขาม ได้กล่าวโดยมีบทสรุปดังนี้
- บทบาทของมหาวิทยาลัยในการเลือกตั้ง: วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดเวทีแสดงวิสัยทัศน์ผู้สมัครนายกเทศมนตรีในเขตเทศบาลนครขอนแก่น เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองและกระตุ้นให้ประชาชนตื่นตัว โดยถ่ายทอดสดผ่าน Thai PBS แม้จะวางแผนให้เป็นเวทีดีเบต แต่สุดท้ายเป็นการนำเสนอนโยบาย ซึ่งก็ได้รับความสนใจอย่างมาก
- ความสำคัญของนายกเทศมนตรี: นายกเทศมนตรีมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายที่ส่งผลโดยตรงต่อชีวิตประชาชน เช่น สาธารณสุข การศึกษา เศรษฐกิจ และโครงสร้างพื้นฐาน (น้ำไหล ไฟสว่าง ทางดี) ซึ่งใกล้ชิดประชาชนมากกว่าการเมืองระดับชาติ
- ปัญหาและความท้าทาย: จากการสำรวจความเห็นประชาชนโดยนักศึกษาและ Thai PBS พบว่า โครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนนหนทางและการจราจร ยังเป็นปัญหาอันดับหนึ่งที่ประชาชนต้องการแก้ไข รองลงมาคือปัญหาขยะ ซึ่งเป็น “ปัญหาโลกแตก” ที่ต้องจัดการทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ
- ข้อจำกัดด้านงบประมาณ: แม้เทศบาลนครขอนแก่นจะได้รับงบประมาณมากเป็นอันดับสองในกลุ่มเทศบาล แต่ส่วนใหญ่ถูกใช้เป็นเงินเดือนบุคลากร ทำให้งบลงทุนสำหรับพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานหรือโครงการใหม่มีจำกัด งบประมาณที่ดูเหมือน “ตัวเท่าช้าง” แต่จริงๆ แล้ว “ด้านเท่าแมว”
- แนวทางแก้ไข: เสนอให้มีการกระจายอำนาจและงบประมาณจากส่วนกลางสู่ท้องถิ่นมากขึ้น รวมถึงเลือกผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ในการบริหารงบประมาณอย่างคุ้มค่า และสามารถดึงดูดการลงทุนเพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจที่ยั่งยืน
- การเมืองท้องถิ่นที่ขอนแก่น: การแข่งขันเน้นนโยบายมากกว่าความขัดแย้งรุนแรง ภาคประชาสังคมและเอกชนที่เข้มแข็งช่วยให้การเมืองท้องถิ่นขอนแก่นมีทิศทางที่น่าสนใจ

ดร.ประเทือง ม่วงอ่อน กล่าวถึง
- งานวิจัยพฤติกรรมการเลือกตั้ง: ดร.ประเทือง ดำเนินโครงการวิจัยโครงการนวัตกรรมแพลตฟอร์มสื่อสารข้อมูลการเลือกตั้งท้องถิ่นในประเทศไทย เก็บรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ผลข้อมูล การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี (จังหวัดอุบลราชธานี) ภายใต้การสนับสนุนจากสถาบันพระปกเกล้า ศึกษาพฤติกรรมการเลือกตั้งในเทศบาลภาคอีสาน โดยเฉพาะจังหวัดอุบลราชธานี ครอบคลุมเทศบาลนคร เทศบาลเมือง และเทศบาลตำบล
- ปัจจัยในการตัดสินใจเลือกตั้ง:
- ท้องถิ่นขนาดเล็ก: ประชาชนให้ความสำคัญกับคุณสมบัติส่วนบุคคลของผู้สมัคร เช่น ประวัติ ผลงาน และความสัมพันธ์ในชุมชน มากกว่านโยบาย เนื่องจากงบประมาณจำกัดทำให้การแข่งขันด้านนโยบายน้อย
- ท้องถิ่นขนาดใหญ่: ประชาชนพิจารณานโยบายสาธารณะควบคู่กับคุณสมบัติส่วนบุคคล เพราะมีงบประมาณมากพอสำหรับนโยบายใหม่ ๆ
- ผู้สมัครหน้าเก่า vs หน้าใหม่: ผู้สมัครหน้าเก่าที่มีผลงานชัดเจนมีโอกาสได้เปรียบ ประชาชนจะพิจารณาผลงานในอดีตมากกว่านโยบายใหม่ ส่วนผู้สมัครหน้าใหม่ต้องสร้างความน่าเชื่อถือ
- การเลือกสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.): ประชาชนมักเลือก ส.ท. ที่มาจากชุมชนหรือหมู่บ้านของตน เพราะเข้าถึงง่ายและสามารถสะท้อนปัญหาได้ดีกว่า
- บทบาทของเงิน: เงินหรือ “กระสุน” ไม่ใช่ปัจจัยชี้ขาดในการเลือกตั้ง โดยเฉพาะในเขตเมืองที่มีการศึกษาและรับรู้ทางการเมืองสูง ประชาชนพิจารณาคุณสมบัติ ผลงาน และนโยบายมากกว่าเงินเพียงอย่างเดียว
- การเลือกเป็นทีม vs อิสระ : ประชาชนนิยมเลือก ส.ท. เป็นทีมมากกว่าอิสระ เพราะเชื่อว่าจะสร้างเสถียรภาพให้ฝ่ายบริหาร ลดการทะเลาะเบาะแว้ง และทำให้โครงการต่างๆ ดำเนินการได้รวดเร็ว แม้จะเข้าใจว่า ส.ท. มีหน้าที่ตรวจสอบฝ่ายบริหาร แต่ประชาชนให้ความสำคัญกับผลผลิตของนโยบายมากกว่าการตรวจสอบ
- ความเชื่อมโยงกับการเมืองระดับชาติ: การเลือกตั้งเทศบาลครั้งนี้เป็นการ “วอร์มอัพ” สำหรับการเลือกตั้งระดับชาติที่คาดว่าจะเกิดขึ้นภายในปี 2570 โดยพรรคการเมืองใช้โอกาสนี้สร้างฐานเสียงและเครือข่ายในท้องถิ่น
- อิทธิพลของพรรคการเมือง: ในท้องถิ่นขนาดเล็ก อิทธิพลของพรรคการเมืองมีน้อย ประชาชนเน้นคุณสมบัติส่วนบุคคลและผลงานมากกว่าความเชื่อมโยงกับพรรค


อาจารย์ทั้งสองท่าน เน้นย้ำว่า การเลือกตั้งเทศบาลเป็นโอกาสสำคัญที่ประชาชนจะกำหนดอนาคตของท้องถิ่น ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐาน คุณภาพชีวิต ไปจนถึงการพัฒนาที่ยั่งยืน ดร.ศิริศักดิ์ เรียกร้องให้ประชาชน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ เดินทางกลับมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง แม้จะอยู่ห่างไกล เพราะทุกเสียงมีผลต่ออนาคตของชุมชนและลูกหลาน ดร.ประเทือง ชี้ว่า ในเขตเลือกตั้งขนาดเล็ก 1 เสียงหรือ 10 เสียงจากครอบครัวสามารถตัดสินผลการเลือกตั้งได้ โดยยกตัวอย่างพื้นที่ที่ผลแพ้-ชนะต่างกันเพียงหลักสิบหรือร้อยคะแนน
วันที่ 11 พฤษภาคม 2568 อย่าลืมไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาล ทุกคะแนนเสียงของคุณคือพลังเปลี่ยนแปลงท้องถิ่น ให้ น้ำไหล ไฟสว่าง ทางดี คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สำหรับทุกคน!