“เทศบาลนครหาดใหญ่ มีเทศบาลเมืองกระจายติดกับอาณาเขตของเทศบาลนครหาดใหญ่หลายเทศบาลด้วยกัน เพราะฉะนั้นสามารถที่จะจัดตั้งเป็นองค์กรปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษในลักษณะ เป็นเมืองมหานครเพื่อกระจายความเจริญ เพื่อให้เกิดเมืองมหานคร นอกเหนือจากกรุงเทพมหานคร”

รศ.ดร.บูฆอรี ยีหมะ อาจารย์ประจำหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา เสนอแนวคิดนี้กลางวงเสวนาสาธารณะ ”อนาคตหาดใหญ่ที่เราต้องการ“ ที่จัดขึ้นโดยภาคีเครือข่ายภาคพลเมืองในหาดใหญ่ เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2568 โดยมีผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ มาร่วมรับฟังข้อเสนอจากภาคพลเมืองที่ผลัดเปลี่ยนกันพูดในประเด็นที่ตัวเองทำงานอยู่ โดย รศ.ดร.บูฆอรี ยีหมะ เป็นตัวแทนประเด็นการกระจายอำนาจ
“เทศบาลเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยโครงสร้างของการกระจายอำนาจของการปกครองท้องถิ่นไทยในปัจจุบันเนี่ยนะครับ เค้าก็ออกแบบให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมี 2 ชั้นด้วยกัน ชั้นบนก็คือองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ อบจ. ที่ทำหน้าที่ครอบคลุมทั้งจังหวัดในกิจการที่ทางเทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบลไม่มีศักยภาพเพียงพอ ทั้งในแง่ของบุคลากร งบประมาณ รวมถึงกิจกรรมหรือภารกิจที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในระดับเทศบาล และอบต. ต้องดำเนินการร่วมกัน หรือหลายพื้นที่ก็จะให้ อบจ. ดำเนินการ”
อาจารย์บูฆอรี เล่าถึงโครงการสร้างของการกระจายอำนาจในปัจจุบัน ซึ่งจากข้อมูลวันที่ 29 เม.ย. 2568 ของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ปัจจุบันมีเทศบาลนครจำนวน 35 แห่ง เทศบาลเมืองจำนวน 221 และเทศบาลตำบลจำนวน 2,218 แห่ง รวมเป็น 2,474 แห่ง แต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2568 จะมีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสภาเทศบาลทั่วประเทศจำนวน 2,121 แห่ง และการเลือกตั้งเฉพาะสมาชิกสภาเทศบาล 338 แห่ง
หน้าที่เทศบาลตาม พ.ร.บ. เทศบาล พ.ศ. 2496 (แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2543) กำหนดหน้าที่เทศบาลตามขนาดและความซับซ้อนของเมือง ยิ่งเมืองใหญ่ขึ้น ภาระความรับผิดชอบยิ่งเพิ่มขึ้นและซับซ้อนกว่าเดิม
เทศบาลตำบล (เล็ก) ดูแลเรื่องพื้นฐานจำเป็นของชุมชน เช่น ความสงบเรียบร้อย ถนนหนทาง ความสะอาด การป้องกันโรค และรักษาวัฒนธรรมท้องถิ่น
เทศบาลเมือง (กลาง) ทำทุกอย่างที่ตำบลทำ เพิ่มเติมด้วยการจัดสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ซับซ้อนขึ้น เช่น น้ำประปา ไฟฟ้า ตลาด โรงฆ่าสัตว์ การระบายน้ำ
เทศบาลนคร (ใหญ่) ทำทุกอย่างที่เมืองทำ เพิ่มเติม ด้วยการบริหารจัดการเมืองใหญ่แบบครบวงจร รับมือปัญหาซับซ้อน เช่น โรงพยาบาล การควบคุมสุขาภิบาลร้านค้า/สถานบริการ การจัดการชุมชนเมือง การวางผังเมือง และการส่งเสริมการท่องเที่ยว
“ถ้าเราพิจารณาในระดับเทศบาลนคร ควรที่จะออกแบบให้เป็นการปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ อาจจะมีชื่อลงท้ายด้วยคำว่า “มหานคร” มีความเป็นไปได้ และควรที่จะดำเนินการ เพราะว่าในเทศบาลนครหลาย ๆ แห่ง ที่เกิดขึ้นในขณะนี้มีลักษณะที่เป็นเมืองที่มีความแออัดหนาแน่นของประชากร มีความเจริญเติบโตในทางเศรษฐกิจ แล้วก็มีความซับซ้อนในด้านต่าง ๆ อาจจะน้อง ๆ กรุงเทพมหานคร ในขณะเดียวกันถ้าเราพิจารณาในแง่ของความเป็นเมืองมหานคร เราจะพบว่าประเทศไทยต่างจากอีกหลาย ๆ ประเทศ ที่เขามีเมืองมหานครหลายแห่ง ”
“เรามีเมืองมหานครเพียงแห่งเดียวก็คือกรุงเทพมหานคร ทำให้เกิดการกระจุกตัว การรวมศูนย์ในแง่ของความเจริญในด้านต่าง ๆ แทนที่จะกระจายไปยังเมืองอื่นที่มีศักยภาพเพียงพอ” รศ.ดร.บูฆอรี ยีหมะ
“การเกิดการปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษในลักษณะของการเป็นเมืองมหานครในเทศบาลนครหลายแห่งในปัจจุบัน การออกแบบอาจจะไม่เจาะจงเฉพาะเทศบาลนครเพียงจุดเดียว อาจจะขยายไปยังอาณาบริเวณรอบ ๆ ของเทศบาลนคร ผมยกตัวอย่างเช่น เทศบาลนครหาดใหญ่ติดกับหลายเทศบาลด้วยกันที่เป็นระดับเทศบาลเมือง เพราะฉะนั้นสามารถที่จะจัดตั้งเป็นองค์กรปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษในลักษณะ เป็นเมืองมหานครเพื่อกระจายความเจริญ เพื่อให้เกิดเมืองมหานครนอกเหนือจากกรุงเทพมหานคร”
ปัจจุบันเทศบาลนครหาดใหญ่มีพื้นที่ 21 ตารางกิโลเมตร มีคนอาศัยอยู่ราว ๆ 140,000 คน มีประชากรหนาแน่นติดอยู่ใน 4 อันดับของเทศบาลนครทั่วประเทศ แต่ละปีมีคนเดินทางเข้ามาอยู่หาดใหญ่ มาทำงานและเรียน ไม่ต่ำกว่าปีละ 200,000 คน ก่อนโควิดมีนักท่องเที่ยวเข้ามากว่า 1.5 ล้านคน และกว่า 80% เป็นนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียและสิงคโปร์
“ถ้าเราพิจารณาจากกรุงเทพมหานคร เราจะพบว่ากรุงเทพมหานครก็มีประชากรแฝงมากกว่าประชากรที่มีทะเบียนบ้านอยู่ในพื้นที่ด้วยซ้ำไป เพราะฉะนั้นหาดใหญ่เองก็เช่นเดียวกัน ก็จะมีประชากรแฝงเป็นจำนวนมาก โดยที่เทศบาลนครหาดใหญ่มีโครงสร้าง รูปแบบ และอำนาจหน้าที่แบบเดียวกับเทศบาลนครอื่น ๆ แต่ปรากฏว่ามีประชากรแฝงเป็นจำนวนมาก เพราะว่าเราเป็นเมืองท่องเที่ยวและเป็นเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของภาคใต้ เพราะฉะนั้นการมีประชากรแฝงมาก ทำให้การกินอยู่ การเข้ามาทำกิจกรรมอะไรต่าง ๆ ในขณะที่งบประมาณจากภาษีต่าง ๆ ที่ได้ก็ไม่แตกต่างจากเทศบาลนครอื่น ๆ ซึ่งมีประชากรแฝงน้อยกว่า”
จากข้อมูลรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ระบุว่า เทศบาลนครหาดใหญ่มีงบประมาณประจำปี 2566 จำนวน 2.71 พันล้านบ้าน โดยแบ่งเป็นงบประมาณที่จัดเก็บเองจำนวน 812.85 ล้านบาท งบประมาณที่รัฐจัดสรรจำนวน 1,219.28 ล้านบาท และเงินอุดหนุนอีก 677.38 ล้านบาท1
“ถ้าหากมีการยกระดับให้เทศบาลนครหาดใหญ่ เป็นการปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ที่เป็นแบบเดียวกับกรุงเทพมหานคร ทั้งในแง่ของแหล่งที่มาของรายได้ ทั้งในแง่ของสัดส่วนภาษี สัดส่วนงบประมาณ ที่ท้องถิ่นได้รับ ตลอดถึงอำนาจหน้าที่หลาย ๆ อย่างที่องค์กรปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษมี เมื่อเทียบกับท้องถิ่นรูปแบบทั่วไป เพราะฉะนั้นประโยชน์ในแง่ของการบริหารจัดการของการปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษของเมืองมหานคร ก็ย่อมที่จะมีมากและประสิทธิภาพต่าง ๆ ก็จะดีกว่าอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน”
“ผมไม่ใช่ประชากรของหาดใหญ่ก็จริงอยู่ แต่ในขณะเดียวกันก็มีปฏิสัมพันธ์กับเทศบาลนครหาดใหญ่เรียกว่าเกือบทุกวัน เพราะว่าลูกเรียนอยู่ในโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่เทศบาลนครหาดใหญ่ “
“สิ่งที่เป็นปัญหาและเป็นความคาดหวังของหลาย ๆ คน เรื่องแรกก็คือปัญหาการจราจร”
รศ.ดร.บูฆอรี ยีหมะ
“ในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมามีการสำรวจ แล้วปรากฏว่าเทศบาลนครหาดใหญ่มีปัญหาจราจรติดขัดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ2 ซึ่งหลาย ๆ คนก็แปลกใจว่าเป็นไปได้อย่างไร ผมคาดหวังว่าในอนาคตข้างหน้า ผู้บริหารชุดใหม่ของเทศบาลนครหาดใหญ่ อาจจะหาวิธีการหาแนวทางในการจัดการปัญหาการจราจรที่เกิดขึ้นนี้ ยิ่งถ้าเกิดว่าก็สามารถผลักดันให้เป็นการปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ และเป็นเมืองมหานครได้ ผมคิดว่าปัญหาจราจรอาจจะเป็นประเด็นเร่งด่วนที่จะต้องมาปรับปรุงแก้ไข”
TomTom บริษัทเทคโนโลยีที่มีความเชี่ยวชาญด้านข้อมูลการจราจรระดับโลกจากประเทศเนเธอร์แลนด์ เผยสถิติการจราจร TomTom Traffic Index Ranking 2024 โดยรวบรวมข้อมูลจาก 500 เมืองใน 62 ประเทศ 6 ทวีป โดยข้อมูลทั้งหมดใช้เกณฑ์การประเมินจากเวลาเดินทางโดยเฉลี่ย 10 กิโลเมตร เปรียบเทียบอันดับในปี 2023 ระดับความแออัด เวลาที่สูญเสียต่อปีกับชั่วโมงเร่งด่วน จราจรคับคั่งอันดับโลก ในส่วนของประเทศไทย เมืองที่รถติดมากที่สุดคือเมืองหาดใหญ่ สงขลา (อันดับ 102 ของโลก) ใช้เวลาโดยเฉลี่ย 24 นาที 12 วินาที ต่อการเดินทาง 10 กิโลเมตร มีระดับความแออัดอยู่ที่ 40% เวลาที่สูญเสียไปต่อปีเท่ากับ 76 ชั่วโมง และอันดับจราจรคับคั่งของโลกอยู่ที่ 41
ขณะผลการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องเร่งด่วนที่ประชาชนอยากให้เทศบาลนครหาดใหญ่ดำเนินการจัดการ โดยเป็นกิจกรรมที่ทีมปัญญารวมหมู่ ไทยพีบีเอส ได้จัดทำขึ้นเพื่อเปิดให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม Hatyai Scenario Fest เทศกาลเยาวชนสื่อสารสร้างสรรค์เมือง ปีที่ 2 ณ ชั้น 2 ห้างลี การ์เดนส์ พลาซ่า ได้เลือกสติ๊กเกอร์ 3 ดวง เพื่อนำไปติดในประเด็นที่ตนเองเห็นว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนที่อยากให้ผู้บริหารเทศบาลนครหาดใหญ่ชุดใหม่เร่งแก้ไข
ซึ่งจะแบ่งกลุ่มประชากรตัวอย่าง 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ (แสดงด้วยแท่งกราฟสีชมพู) และกลุ่มผู้ไม่มีสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งรวมถึงเยาวชน นักท่องเที่ยว และประชากรแฝงในพื้นที่หาดใหญ่ (แสดงด้วยแท่งกราฟสีเขียว) แกนตั้งด้านซ้ายแสดงจำนวนผู้ตอบในแต่ละกลุ่มสำหรับแต่ละประเด็น ในขณะที่แกนตั้งด้านขวาและเส้นกราฟแสดงจำนวนรวมทั้งหมดของผู้ตอบในแต่ละประเด็น ข้อมูลนี้รวบรวมจากการสำรวจในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ณ วันที่ 28 เมษายน 2568
พบว่าประเด็นที่ประชาชนโดยรวมเห็นว่ามีความเร่งด่วนสูงสุดที่เทศบาลควรจัดการคือ การศึกษา ซึ่งมีจำนวนผู้เลือกสูงสุดอย่างมีนัยสำคัญ รองลงมาคือประเด็นด้าน สาธารณสุข และ ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ส่วนประเด็นที่ได้รับความสนใจน้อยที่สุดจากประชากรโดยรวมคือเรื่อง สังคมสงเคราะห์ และ ศาสนา วัฒนธรรมและนันทนาการ
เมื่อวิเคราะห์เปรียบเทียบระหว่างสองกลุ่มประชากร พบทั้งความสอดคล้องและความแตกต่างในลำดับความสำคัญของประเด็นต่าง ๆ กลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้ง (สีชมพู) ให้ความสำคัญมากที่สุดกับ การศึกษา ตามมาด้วย สาธารณสุข และ สาธารณูปโภคและการก่อสร้าง ในทางตรงกันข้าม กลุ่มผู้ไม่มีสิทธิเลือกตั้ง (สีเขียว) แม้จะเห็นว่า การศึกษา เป็นประเด็นสำคัญอันดับหนึ่งเช่นกัน แต่ลำดับถัดมาเป็น สาธารณสุข และ ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม
“เราจะพบว่าความเป็นองค์กรปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษทำให้กรุงเทพมหานครมีทั้งรถไฟลอยฟ้าและรถไฟใต้ดิน มีทั้งรถไฟใต้ดิน การเกิดมหานครในพื้นที่อื่น การเกิดการปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษในที่อื่น ก็จะทำให้ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะแบบเดียวกับกรุงเทพมหานครเกิดขึ้นได้ในพื้นที่หนึ่งที่เป็นองค์กรปกครองส่วนรูปแบบพิเศษ เกิดขึ้นได้ในพื้นที่หนึ่งที่เป็นองค์กรปกครองส่วนรูปแบบพิเศษ หรือเป็นเมืองมหานคร”
รศ.ดร.บูฆอรี ยีหมะ
ทุกคนที่ใช้ชีวิตในเมืองสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการบอกความต้องการที่ตอบสนองคนพื้นที่และคนที่ใช้ชีวิตในเมืองของตัวเองได้ และร่วมบอกสิ่งที่ผู้นำท้องถิ่นร่วมกันคนในพื้นที่ช่วยกันจัดการ หรือเข้าแพลตฟอร์ม เทศบาลใกล้ฉัน ที่เปิดให้ทุกท่านเข้าไปสำรวจงบประมาณ และร่วมออกแบบการใช้งบประมาณท้องถิ่น
ขอบคุณภาพจาก ชินาธิป พุฒซ้อน
อ้างอิง