เสียงดนตรีแห่งจิตวิญญาณ

สายลมหนาวพัดมาเยือนแล้วในปีนี้ หลังจากที่หลายพื้นที่ในภาคเหนือเผชิญกับภัยพิบัติ น้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก นอกจากการฟื้นฟู เยียวยา ช่วยเหลือดูแลกันแล้ว การได้รับฟังดนตรีเพราะๆ ที่สื่อจากจิตวิญญาณของศิลปิน ก็เป็นหนึ่งในการปลอดประโลมจิตใจได้เช่นกัน อย่างงานเสียงดนตรีแห่งจิตวิญญาณ จากพี่สาท ประสาท ประเทศรัตน์  อดีตหัวหน้าวงแบนโจแมน  เอ แมลงเพลง นักดนตรีจังหวัดเชียงใหม่ สุวิชานนท์ รัตนภิมล และชิ สุวิชาน พัฒนาไพรวัลย์ คนเพลงปกาเกอะญอ(ศิลปินปกาเกอะญอ) ที่จะมาบรรเลงดนตรีให้ฟังในบ่ายสามของวันนี้(8 พ.ย.2567) ณ ลานใต้ต้นฉำฉาใหญ่ เวิ้งฉำฉา โหล่งฮิมคาว อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ นอกจากมาร่วมฟังดนตรีแล้ว ชวนมาเขียนการ์ดให้กำลังใจกับผู้ประสบภัยน้ำท่วม แบ่งปัน ระดมทุน เสื้อผ้า อาหาร เครื่องใช้ และเมล็ดพันธุ์ไปมอบให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วม

เราได้พูดคุยกับสุวิชานนท์ รัตนภิมล หนึ่งในตัวตั้งตัวดีที่คิดงานนี้ขึ้นมาร่วมกับชัชวาลย์ ทองดีเลิศ ผู้ก่อตั้ง ‘โหลงฮิมคาว’ สถานที่จัดงานในครั้งนี้ เขาเล่าว่า ครั้งนี้เป็นการนัดเจอกัน ของคนทำดนตรี 4 คน ที่เล่นดนตรีมาอย่างยาวนาน มีโอกาสได้เล่นด้วยกันในที่ต่างๆ ตามวาระ แต่ไม่เคยได้อยู่ร่วมกัน 3-4 คน บางทีเขาก็เล่นกับชิ บางทีก็เล่นกับเอ เล่นกับพี่สารท และบางทีก็เล่นกันสามคนผม เอ พี่สาท เล่นด้วยกัน และมีสิ่งหนึ่งที่ทำด้วยกัน มีเพลงชนิดหนึ่งที่เราไม่ค่อยได้เอามาเล่นให้คนฟัง แต่เป็นเพลงที่เราเล่นกันด้วยความรู้สึกจริงๆ โดยมีโครงสร้างของความรู้สึกเป็นพื้นใจ และนับสนุนอยู่ข้างหลังเสียงของเรา อย่างผมทำงานดนตรี แต่งเพลง  เขียนเพลงเอง เข้าห้องอัด ขายเพลงเอง เล่นเอง ส่วนพี่ประสาท แบนโจแมนก็เล่นดนตรีอย่างโชกโชน กว่า 20 ปี เล่นอยู่ตามโรงแรมบ้าง ตั้งวงเป็นวงบลูแกรส เป็นวงใหญ่มากในเชียงใหม่เมื่อสัก20ปีก่อน เล่นกันมาอย่างโชกโชน เอ แมลงเพลงก็เล่นดนตรีอยู่ในเชียงใหม่ ตามร้านอาหารตามผับ มาอย่างโชกโชนเหมือนกัน ชิ สุวิชาน ก็เดินทางทำเพลงของปกาเกอะญอ มา 20-30 ปี

สุวิชานนท์ ประสาท ประเทศรัตน์ และเอ แมลงเพลง ขอบคุณภาพจาก FBsuvichanon.non

สิ่งหนึ่งที่เราอยากนำเสอน คือ เบื้องหลังเสียงที่เราทำกัน เราไม่ได้นำมาเล่นแบบนี้กันบ่อย เรานำมาเล่นด้วยกันในวงเล็ก ๆ แถวระเบียงบ้าน ในครัว หรือเพื่อฝูงที่มีเยี่ยม แล้วเราก็บรรเลงกัน เลพงที่ให้ความรู้สึก สงบ อิ่ม และมีความสุข เราเห็นตาของคนฟังที่ยิ้มได้ บางดวงตาสดใสมาก หรือบางคนถึงขนาดปาดน้ำตาก็ยังมี ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับใจของเขา ผมคิดว่าอารมณ์เพลงแบบนี้ เราไม่เคยได้แสดงบนเวทีที่ไหน เพราะเมื่อเรารับงานแสดง คนดูเขาคาดหวังว่าถ้าไปเล่น แล้วจะไดฟังเพลงที่ 1 เพลง2 เพลงที่3 หรือบางครั้งต้องเอนเตอร์เทน ให้คนดูเต้นด้วยหรือไม่ ต้องสนุกในแบบของคนดู แต่เราอยากนำพาความเป็นเสียง เพื่อให้คนได้สัมผัส

แชร์บทความนี้