We Watch กังวลระเบียบฯ กกต. ลดทอนคุณค่าการมีส่วนร่วมของประชาชนในการเลือกตั้ง สว.

ระเบียบ กกต. ว่าด้วยการแนะนำตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2567 ส่งผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชนในหลายภาคส่วน เช่นการห้ามแจกเอกสารแนะนำตัวด้วยการวาง โปรย ในพื้นที่สาธารณะ หรือ การห้ามในสัมภาษณ์สื่อมวลชนในฐานะของผู้สมัคร ซึ่งส่งผลต่อการรับรู้ของประชาชนทั่วไปและจำกัดขอบเขตของผู้รับสมัครทำให้ไม่สามารถแนะนำตัวได้เต็มที่

เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา กลุ่ม We Watch ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถึงข้อกังวลที่กำลังจะเกิดขึ้นจากระเบียบฯ ฉบับนี้ โดยระบุว่าระเบียบ กกต. ฉบับนี้มีเนื้อหาที่ปิดปากผู้สมัคร ปิดปากสื่อมวลชนและปิดปากประชาชน ขัดต่อการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนต่อผู้สมัครที่จะเข้ามามีส่วนในการบริหารประเทศผ่านการกลั่นกรองกฎหมายหรือเลือกบุคลากรในองค์กรอิสระ เป็นต้น ทางกลุ่มและประชาชนกว่า 1,200 คน ร่วมยื่นข้อเสนอให้ระงับการใช้ระเบียบ กกต. ว่าด้วยการแนะนำตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2567 ไว้ชั่วคราวจนกว่าจะมีการแก้ไขให้เป็นธรรมและให้ กกต. ส่งเสริมการรับรู้ มีส่วนร่วมและตรวจสอบการเลือกตั้งสว.ครั้งนี้

บรรยากาศ We Watch ยื่นจดหมายฯ แนบรายชื่อประชาชน 1,286 คน ถึง กกต. เปิดพื้นที่ตรวจสอบการเลือก สว. ภาพจากเพจ We Watch

นนทวัฒน์ เหลาผา เจ้าหน้าที่ฝ่ายอบรมและจัดหาอาสาสมัคร We Watch ให้สัมภาษณ์ในรายการอนาคตประเทศไทยว่า ระเบียบ กกต. ว่าด้วยการแนะนำตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2567 ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีสองมุมมอง คือมุมของกลุ่มผู้สมัครและมุมของประชาชน ซึ่งในมุมมองของประชาชน ระเบียบฯ ที่ออกมาเป็นระเบียบฯ ที่ตัดโอกาสของประชาชนที่จะมีส่วนร่วมหรือแม้แต่ผู้ที่สมัครก็อาจยังมีส่วนร่วมไม่มากพอ เช่น การแนะนําตัว ต้องแนะนําตัวต่อกลุ่มคนที่จะลงสมัครด้วยกัน แต่ว่าประชาชนไม่มีสิทธิ์ที่จะรับรู้ข้อมูลหรือข่าวสารกับคนที่มาเป็นตัวแทนของเขาในการที่จะไปรับร่างกฎหมายต่าง ๆ หรือว่าประเด็นอื่นที่ สว.มีอํานาจทําได้

การประชุมร่วมกันของรัฐสภา (สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา)

หากมองในมุมของสื่อ มุมไหนที่มองว่าเป็นการแนะนําตัวหรือว่าสื่ออาจจะช่วย สมมุติเอาผู้ที่จะลงสมัครไปออกรายการสื่อแต่ว่าการที่จะแนะนําตัวอาจเป็นผู้ช่วยแนะนําตัว อันนี้ก็อาจดูตีกรอบว่าเป็นผู้ช่วย ก็เป็นหลายเรื่องราวที่มันยังมีความไม่ชัดเจน เราถึงมองว่าเป็นปัญหา

“ถ้าถามว่าอำนาจของประชาชนมีแค่ไหนก็ต้องบอกก่อนว่าประชาชนก็ต้องเป็นคนกำหนดอนาคตของตัวเอง กําหนดทิศทางการเดินของตัวเอง แต่ว่าถ้าระเบียบจาก กกต. คลอดออกมาแบบนี้ เราก็จะบอกว่าระเบียบฯ นี้ มันคือระเบียบที่จํากัด สิทธิและเสรีภาพของประชาชนในการมีส่วนร่วม รวมถึงปิดหูปิดตาสื่อมวลชนหรือว่าอย่างที่เราได้พูดแถลงการณ์ต่อ กกต.” นนทวัฒน์กล่าว

จดหมายเปิดผลึกคัดค้านระเบียบฯ กกต.

อย่างไรก็ตาม นนทวัฒน์ กล่าวถึงความคาดหวังในฐานะประชาชนว่า อยากให้ระเบียบที่ออกมาสอดคล้องกับประชาชนจริง ๆ คาดหวังว่า กกต.น่าจะทบทวนในระเบียบนี้เพื่อที่จะปรับปรุงให้ดีขึ้นหรือว่าแก้ไขในส่วนที่ตามที่ กลุ่ม We Watch เรียกร้อง

แชร์บทความนี้