เขียนโดย อรกช สุขสวัสดิ์
“นางเลิ้ง” เป็นหนึ่งในย่านชุมชนเก่าแก่ของกรุงเทพมหานคร มีทั้งประวัติศาสตร์และเรื่องเล่าของชุมชนที่มียาวนานกว่า 120 ปี แต่เมื่อกาลเวลาเปลี่ยน การพัฒนาพัดพาความเจริญเข้ามาสู่พื้นที่ชุมชนจนเติบโตและขยายตัวจากเดิม ย่านนางเลิ้งจึงกลายเป็นศูนย์กลางการค้าและแหล่งบันเทิงที่มีชื่อเสียงย่านนึงของกรุงเทพมหานคร
ยุคสมัยเปลี่ยน นางเลิ้ง กลายเป็นย่านชุมชนในเมืองที่ยังมีเรื่องราวอะไรที่เราอาจไม่เคยรู้จักหรือเคยได้ยินมาก่อน ย่านนี้เปลี่ยนไปอย่างไรจากภาพเดิมที่เคยเห็น ชวนรู้จักนางเลิ้งไปพร้อมกัน
นางเลิ้งอยู่ตรงไหนของกรุงเทพฯ
นางเลิ้ง ตั้งอยู่บนแขวงวัดโสมนัสฯ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เป็นชุมชนที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ มีพื้นที่รวม 2,200 ตารางวา สามารถแบ่งเป็นชุมชน 5 ชุมชนด้วยกัน ได้แก่ ชุมชนจักรพรรดิพงษ์ ชุมชนวัดสุนทรธรรมทาน ชุมชนวัดโสมนัส ชุมชนศุภมิตร 1 และ 2 มีจำนวนประชากรหลังคาเรือน 984 หลัง ส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นชุมชนแออัด
ที่มาของคำว่า นางเลิ้ง มาจาก “อีเลิ้ง” ซึ่งเป็นภาษามอญ หมายถึง ตุ่มหรือโอ่งสำหรับใส่น้ำ เพราะย่านนี้แต่เดิมเป็นแหล่งขึ้นตุ่มอีเลิ้งจากคลองผดุง แต่ต่อมาคำว่าอีคนเมืองมองว่าไม่ไพเราะจึงเปลี่ยนไปใช้คำว่านางแทน และต่อมาในสมัยร.6 มีการนำคำว่านางเลิ้งไปใช้เรียกชื่อสถานที่ต่าง ๆ ในบริเวณใกล้เคียง เช่น โรงพักนางเลิ้ง ตลาดนางเลิ้ง สนามม้านางเลิ้ง และโรงหนังนางเลิ้ง เป็นต้น
ชวนดูพัฒนาการย่านนางเลิ้ง
นางเลิ้งเป็นย่านสำคัญทางเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ มาตั้งแต่รัชกาลที่ 4 เป็นต้นมา จากการพัฒนาด้านคมนาคม และการออกแบบผังเมือง ที่ส่งผลให้นางเลิ้งคือหนึ่งในแหล่งการค้า ศูนย์รวมความบันเทิงและศิลปวัฒนธรรมที่สำคัญ ซึ่งสามารถแบ่งช่วงยุคสำคัญของนางเลิ้งออกเป็น 3 ช่วงได้แก่ ยุคขยายตัว ยุคทองของนางเลิ้ง และยุคการพัฒนา
ช่วงเริ่มต้นนางเลิ้งเป็นเพียงทุ่งนากว้างหรือที่คุ้นชื่อว่าบ้านสนามความ ยังไม่มีผู้คนอาศัยอยู่มากแต่ก่อนยังสัญจรด้วยการเดินเรือตามคลองเป็นหลัก ทำให้นางเลิ้งเป็นย่านการค้าริมน้ำ ต่อมาเริ่มมีการพัฒนาออกแบบเมืองให้ทันสมัยขึ้น สร้างเส้นทางคมนาคม ทำให้คนเข้าถึงนางเลิ้งมากและขยับขยานเป็นตลาดบกแห่งแรกในประเทศไทยคือ ตลาดนางเลิ้ง
รวมถึงศิลปะบันเทิงเริ่มเฟื่องฟู ตึกแถวมีการสร้างสถาปัตยกรรมตะวันตก เกิดโรงหนังเฉลิมธานี บ่อนและโรงฝิ่น (ถูกกฎหมายในตอนนั้น) ตรอกละครเป็นย่านละครชาตรี ทำให้กลายเป็นแหล่งบันเทิงแรกๆ ของกรุงเทพมหานคร
เดินลัดเลาะ สำรวจนางเลิ้งมีอะไร?
แดง-สุวัน แววพลอยงาม และ น้ำมนต์-นวรัตน์ แววพลอยงาม ทั้งสองเกิดและเติบโตในนางเลิ้งและพื้นที่ตรงกลางในการทำงานร่วมกับชุมชนย่านนางเลิ้งอย่าง COMMUNITY LAB {Nang Loeng} เป็นองค์กรที่รวมกลุ่มคนทำงาน ศิลปิน นักวิชาการ นักประวัติศาสตร์ชุมชนมาทำงานร่วมกัน โดยใช้ศิลปะเป็นเครื่องมือพัฒนาและเสริมสร้างความแข็งแกร่งภายในชุมชน มาเป็นไกด์นำทางการเดินสำรวจและให้ข้อมูลการเดินสำรวจครั้งนี้
เมื่อเอาข้อมูลข้างต้นมาแบ่งจำแนกตามพื้นที่ของนางเลิ้ง สามารถแบ่งได้ออกเป็น 3 โซนสำคัญ ได้แก่ โซนตลาดนางเลิ้ง โซนตรอกละคร และโซนฮอปปิงคาเฟ่
/
โซนตลาดนางเลิ้ง
เป็นที่อยู่ของชุมชนศุภมิตร 1 และ 2 มีคนจีนอาศัยอยู่เยอะจากสมัยก่อนที่เข้ามา มีสถานที่สำคัญอย่าง “ศาลเสด็จพ่อกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์” หรือ “ศาลเสด็จเตี่ย”
ตลาดนางเลิ้ง เป็นตลาดบกแห่งแรกของประเทศไทย ที่มีอายุยาวนาวกว่า 120 ปี ตั้งอยู่ที่ถนนนครสวรรค์ แขวงวัดโสมนัส แหล่งรวมอาหารและขนมโบราณที่มีชื่อเสียง โดยเฉพาะขนมหวานตำรับชาววัง เช่น ร้านนันทาขนมไทย หรือร้านเก่าแก่ข้าวแกงรัตนา เป็นต้น
“โรงหนังแห่งนี้มิใช่เพียงสถานที่ฉายภาพยนตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์รวมความบันเทิง และกิจกรรมทางสังคมของผู้คนในย่านนางเลิ้ง เป็นสถานที่ที่เด็ก เยาวชน และครอบครัว ต่างมาใช้เวลาร่วมกัน หัวเราะและร้องไห้ไปกับเรื่องราวบนหน้าจอ เป็นแหล่งสรรค์สร้างความทรงจำอันล้ำค่า และความผูกพันที่ยากจะลืมเลือน”
กันติยา วิวัฒน์ทักษิณ
นอกจากร้านอาหารแล้ว ยังมี “ศาลาเฉลิมธานี” โรงหนังนางเลิ้ง เป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญ สีสันและความบันเทิงในย่านนี้ แต่ตอนนี้ได้ปิดตัวลง กำลังถูกเปลี่ยนให้เป็นอย่างอื่นแทน ทำให้สถานที่นี้กลายเป็นเพียงความทรงจำและบอกเล่าต่อ
ตรอกละคร โซนศิลปะวัฒนธรรม
อยู่ติดกับถนนหลานหลวง (เดิมเรียกว่า ถนนสนามกระบือ) และอยู่ติดวัดสุนทรธรรมทาน (ระยะหลังชาวบ้านเรียกว่าวัดแคนางเลิ้ง) ในอดีตมีการนำเข้ามาของศิลปะการแสดงหลากหลาย ทั้งโขน ละคร หนังตะลุง สิเก และดนตรีปี่พาทย์ มีหลายคณะที่โด่งดังเก่าแก่มีชื่อเสียงสืบทอดมาจนทุกวันนี้
“ปัจจุบันละครชาตรีหาดูได้ยากมากแล้ว เนื่องจากวัฒนธรรมที่เปลี่ยนไป และค่อย ๆ เลือนหายตามกาเมละควลา ปัจจุบัน แม่ครูกัญญา ทิพโยสถ นักแสดงละครชาตรีคนสุดท้ายของตระกูลยังคงรักษาวัฒนธรรรชาตรีไว้”
พศวัต ไสยกานนท์
ถ้าพูดถึงละครชาตรีที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ละครชาตรี ที่บ้านนางเลิ้ง มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 การสืบทอดศิลปะการแสดงตกทอดมาสู่หลายรุ่น และปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป
โซนธุรกิจดั้งเดิมและธุรกิจใหม่
เป็นโซนที่ติดถนนจักรพรรดิพงษ์ ซึ่งติดกับถนนบำรุงเมืองเชื่อมกับถนนราชดำเนิน และยังได้พระนามของพระอนุชาของรัชกาลที่ 5 มาตั้งเป็นชื่อ ทั้งสองฝั่งของถนนรายล้อมด้วยอาคารพาณิชย์สีเหลืองคุ้นตาที่ประกอบกิจการกันหลากหลาย ตั้งแต่ร้านทำผม ร้านอาหาร โดยเฉพาะร้านหนังสือการ์ตูนวัยเด็กอย่างวิบูลกิจย์ สะท้อนว่าแต่ก่อนพื้นที่นี้มีธุรกิจโรงพิมพ์หนังสือมากมาย แต่เมื่ออยู่ในยุคที่รูปแบบการอ่านเปลี่ยนไป คนหันมาอ่าน E-book มากขึ้นหรือราคาหนังสือที่ทำให้เข้าถึงยาก จึงทำให้ต้องปิดตัวลงเหลือเพียงไม่กี่ร้านเท่านั้น
“ร้านหนังสือ โรงพิมพ์เก่าของชุมชนนางเลิ้ง รวบรวมหนังสือการ์ตูนและหนังสือประเภทต่าง ๆ ที่หายาก ตัวร้านสะท้อนถึงยุครุ่งเรืองของสิ่งพิมพ์ในสมัยก่อนที่หาได้ยากและกำลังจะหายไปเรื่อย ๆ ในยุคดิจิทัล”
ม่านฟ้า พงศ์ศรีมาศ
ขณะเดียวกันมีรองร่อยของการผสมผสานระหว่างร้านเก่าดั้งเดิมของย่านกับร้านใหม่ที่เข้ามาตามพัฒนาการของย่าน ร้านคาเฟ่ ร้านอาหารที่ยังคงอัตลักษณ์ของชุมชนเอาไว้ อย่างเช่นร้านแป้งร่ำคาเฟ่
“ร้านแป้งร่ำ เป็นคาเฟ่ห้องแถวเล็ก ๆ แนววินเทจ มีขายเครื่องดื่ม กาแฟสด ชานม ขนมต่าง ๆ อีกมากมาย อีกทั้งยังมีหนังสือ และ โปสการ์ดของเก่า ให้สายวินเทจได้ชมอีกด้วย”
ตรีนุช ปลั่งพินิจกิจการ
การเดินลัดเลาะตามตรอกซอยย่านนางเลิ้ง ทำให้เราเห็นภาพ เข้าใจวิถีชีวิตชุมชนมากขึ้น จากเดิมที่ไม่รู้จักนางเลิ้งหรือรู้จักผิวเผิน กลายเป็นรู้ว่านางเลิ้งมีอะไรบ้างที่เราไม่รู้จัก มีเรื่องเล่าของในพื้นที่
กิจกรรมการสำรวจในครั้งนี้ร่วมกับ community-lab ที่นอกจากจะพัฒนาและแก้ไขปัญหาชุมชนผ่านโครงการต่าง ๆ โดยใช้ศิลปะในชุมชนเป็นเครื่องมือ แล้วยังมีโจทย์สำคัญคือการทำฐานข้อมูลชุมชนเพื่อนำใช้ต่อ จึงจัดกิจกรรมพาคนข้างนอกมาทำความเข้าใจนางเลิ้ง ชวนดู มอง สัมผัสสิ่งที่เจอนั้นสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดได้อย่างไร ซึ่งนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่สนใจการทำงานกับชุมชนและอยากต่อยอดสื่อสารออกไป จึงมาเดินทำกิจกรรมร่วมกัน และใช้เครื่องมือ c-site โดยทีม Public Intelligence ในการบันทึก จัดเก็บข้อมูลสำคัญ และความทรงจำร่วมของชุมชนในลักษณะของ storytelling maps ร่วมกัน
หากคุณสนใจอยากเดินตามรอยเส้นทางสำรวจย่านนางเลิ้งหรืออ่านเรื่องราวที่ปักเข้ามานี้ สามารถทำได้โดยคลิ๊กที่นี่