อ่านความต้องการประชาชนในเขตเทศบาลนคร ก่อนการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี 11 พ.ค.

วันที่ 11 พฤษภาคม 2568 ที่จะถึงนี้กำลังจะการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเทศบาลและสมาชิกเทศบาลหลายระดับ หลายพื้นที่ในทุกภูมิภาค เป็นหน่วยการเลือกผู้แทนท้องถิ่น

จากข้อมูลวันที่ 29 เม.ย. 2568 ของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ปัจจุบันมีเทศบาลนครจำนวน 35 แห่ง เทศบาลเมืองจำนวน 221 และเทศบาลตำบลจำนวน 2,218 แห่ง รวมเป็น 2,474 แห่ง แต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2568 จะมีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสภาเทศบาลทั่วประเทศจำนวน 2,121 แห่ง และการเลือกตั้งเฉพาะสมาชิกสภาเทศบาล 338 แห่ง

เทศบาลเป็นหน่วยการปกครองที่มีอำนาจใหญ่กว่าอบต. แต่เล็กกว่าอบจ. แบ่งออกเป็น 3 ประเภทตามจำนวนประชากรและรายได้ของเทศบาลนั้น ได้แก่ เทศบาลตำบล (ทต.) เทศบาลเมือง (ทม.) ท้องถิ่นที่มีประชากรตั้งแต่ 10,000 คนขึ้นไปและมีรายได้พอควรที่จะปฏิบัติหน้าที่ของเทศบาลเมือง และเทศบาลนคร ท้องถิ่นที่มีประชากรตั้งแต่ 50,000 คนขึ้นไปและมีรายได้พอควรที่จะปฏิบัติหน้าที่ของเทศบาลนคร

หน้าที่เทศบาลตาม พ.ร.บ. เทศบาล พ.ศ. 2496 (แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2543) กำหนดหน้าที่เทศบาลตามขนาดและความซับซ้อนของเมือง ยิ่งเมืองใหญ่ขึ้น ภาระความรับผิดชอบยิ่งเพิ่มขึ้นและซับซ้อนกว่าเดิม

  • เทศบาลตำบล (เล็ก) ดูแลเรื่องพื้นฐานจำเป็นของชุมชน เช่น ความสงบเรียบร้อย ถนนหนทาง ความสะอาด การป้องกันโรค และรักษาวัฒนธรรมท้องถิ่น
  • เทศบาลเมือง (กลาง) ทำทุกอย่างที่ตำบลทำ เพิ่มเติมด้วยการจัดสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ซับซ้อนขึ้น เช่น น้ำประปา ไฟฟ้า ตลาด โรงฆ่าสัตว์ การระบายน้ำ
  • เทศบาลนคร (ใหญ่) ทำทุกอย่างที่เมืองทำ เพิ่มเติม ด้วยการบริหารจัดการเมืองใหญ่แบบครบวงจร รับมือปัญหาซับซ้อน เช่น โรงพยาบาล การควบคุมสุขาภิบาลร้านค้า/สถานบริการ การจัดการชุมชนเมือง การวางผังเมือง และการส่งเสริมการท่องเที่ยว

นอกจากหน้าที่ของเทศบาลตามกฎหมายว่าด้วยเทศบาลแล้ว ในพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 ยังกำหนดหน้าที่ของเทศบาลไว้ด้วยเช่นกัน ให้มีอำนาจและหน้าที่ในการจัดระบบการบริการสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นของตนเองดังนี้

อำนาจหน้าที่ของเทศบาลตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542แสดงภารกิจหน้าที่ของเทศบาลตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542
(1) การจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นของตนเอง
(2) การจัดให้มีและบำรุงรักษาทางบก ทางน้ำ และทางระบายน้ำ
(3) การจัดให้มีและควบคุมตลาด ท่าเทียบเรือ ท่าข้าม และที่จอดรถ
(4) การสาธาณูปโภคและการก่อสร้างอื่น ๆ
(5) การสาธารณูปการ
(6) การส่งเสริม การฝึก และประกอบอาชีพ
(7) การพาณิชย์ และส่งเสริมการลงทุน
(8) การส่งเสริมการท่องเที่ยว
(9) การจัดการศึกษา
(10) การสังคมสงเคราะห์ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก สตรี คนชรา และผู้ด้อยโอกาส
(11) การบำรุงรักษาศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น และวัฒนธรรมอันดีของท้องถิ่น
(12) การปรับปรุงแหล่งชุมชนแออัดและการจัดการเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย
(13) การจัดให้มีและบำรุงรักษาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ
(14) การส่งเสริมกีฬา
(15) การส่งเสริมประชาธิปไตย ความเสมอภาค และสิทธิเสรีภาพของประชาชน
(16) ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของราษฎรในการพัฒนาท้องถิ่น
(17) การรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง
(18) การกำจัดมูลฝอย สิ่งปฏิกูลแลน้ำเสีย
(19) การสาธารณสุข การอนามัยครอบครัว และการรักษาพยาบาล
(20) การจัดให้มีและควบคุมสุสานและฌาปนสถาน
(21) การควบคุมการเลี้ยงสัตว์
(22) การจัดให้มีและควบคุมการฆ่าสัตว์
(23) การรักษาความปลอดภัย ความเป็นระเบียบเรียบร้อย และการอนามัย โรงมหรสพและสาธารณูปโภคสถานอื่น ๆ
(24) การจัดการ การบำรุงรักษา และการใช้ประโยชน์จากป่าไม้ ที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(25) การผังเมือง
(26) การขนส่งและการวิศวกรรมจราจร
(27) การดูแลรักษาที่สาธารณะ
(28) การควบคุมอาคาร
(29) การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
(30) การรักษาความสงบเรียบร้อย การส่งเสริมและสนับสนุนการป้องกันและรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
(31) กิจการอื่นใดที่เป็นผลประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนดการที่กฎหมายกำหนด

หน้าที่ของเทศบาลและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น ๆ ไว้มากมายเช่นนี้ ก็เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งรวมทั้งเทศบาล ต้องเตรียมตัวรับการถ่ายโอนภารกิจหน้าที่ งบประมาณ และบุคลากรให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจากรัฐบาล ตามทิศทางที่เป็นผลมาจากบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 และพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 ซึ่งได้กำหนดแผนและขั้นตอนให้มีการถ่ายโอนภารกิจหน้าที่จากหน่วยงานราชการบริหารส่วนกลางและส่วนภูมิภาคแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ดังนั้น โครงสร้างอำนาจหน้าที่ของเทศบาลที่แบ่งตามระดับ ตำบล เมือง นคร จึงสะท้อนขนาดความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้นตามขนาดและความซับซ้อนของเมืองอย่างชัดเจน จากการดูแลคุณภาพชีวิตพื้นฐาน สู่การสร้าง โครงสร้างพื้นฐานรองรับความเป็นเมือง และขยายไปถึงการบริหารจัดการระบบเมืองที่ซับซ้อนและวางแผนอนาคต ด้วยเหตุนี้ เทศบาลในฐานะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนการจัดสรรทรัพยากร ทั้งงบประมาณและแผนงาน ให้เท่าทันพลวัตของเมือง ไม่ว่าเมืองนั้นจะกำลังขยายตัวหรือหดตัวลงก็ตามหัวใจสำคัญคือการตอบสนองต่อความต้องการที่แท้จริงและเปลี่ยนแปลงไปของ ผู้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ได้อย่างเหมาะสมและทันท่วงที การจับสัญญาณความเปลี่ยนแปลงของเมืองและความต้องการของผู้คนอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นภารกิจที่ขาดไม่ได้ เพื่อการบริหารจัดการท้องถิ่นที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง

ในช่วงปลายมีนาคม – เมษายน 2568 สำนักเครือข่ายและภาคีเครือข่ายสื่อสาธารณะท้องถิ่น สถาบันการศึกษาในหลายภูมิภาค ได้จัดกิจกรรม Locals Voice และแคมเปญเทศบาลใกล้ฉัน รับฟังความคิดเห็นของคนท้องถิ่นทั้งที่เป็นกลุ่มประชากรและผู้พักพิงอาศัยทำงานและใช้ท้องถิ่นในหลายพื้นที่ ได้แก่ เทศบาลนครพิษณุโลก เทศบาลนครเชียงใหม่ เทศบาลนครเชียงราย เทศบาลนครระยอง เทศบาลนครหาดใหญ่ เทศบาลนครขอนแก่น โดยนำข้อมูลจากกระบวนการรับฟังทั้งออนกราวด์และออนไลน์ ประมวลสะท้อนเรื่องเร่งด่วนหรือโจทย์ที่คนพื้นที่นั้น ๆ ต้องการอยากให้มีการพัฒนาดำเนินการจัดการ (สามารถอ่านและติดตามการเผยแพร่บทวิเคราะห์ความต้องการของแต่ละพื้นที่ได้ทางเว็บโลคอล) โดยงานชิ้นนี้จะเป็นการสังเคราะห์ความต้องการโดยภาพรวมของคนท้องถิ่น

ความต้องการเร่งด่วนด้านโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค กับรากฐานเมืองที่มั่นคงของเมือง

ประเด็นนี้ยังคงครองอันดับความสำคัญสูงสุดอย่างต่อเนื่องและเป็นสากล ไม่ว่าจะสำรวจในพื้นที่ใด หรือรับฟังจากเสียงสะท้อนใดๆ ก็ตาม เพราะโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคคือเส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงชีวิตประจำวันและกิจกรรมทางเศรษฐกิจของเมือง ความต้องการที่ประชาชนสะท้อนออกมาอย่างชัดเจน ได้แก่

  • ถนนและทางเท้าที่ได้มาตรฐาน ไม่ใช่แค่การซ่อมแซมผิวเผิน แต่คือการแก้ไขปัญหาถนนชำรุดเรื้อรัง (ซ่อมแล้วซ่อมอีก), การก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน, การแก้ปัญหาหลุมบ่ออย่างถาวร, การตีเส้นจราจรให้ชัดเจน รวมถึงการสร้างและปรับปรุง
  • ทางเท้าที่ประชาชนสามารถเดินได้อย่างสะดวกและปลอดภัยจริง ไม่ใช่เป็นพื้นที่วางของ สิ่งกีดขวาง หรือมีสภาพชำรุดจนเป็นอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงอายุ เด็ก และผู้พิการ (ทางเท้าเพื่อคนทั้งมวล) ผลกระทบจากปัญหานี้ไม่ใช่แค่ความไม่สะดวก แต่ยังรวมถึงอุบัติเหตุ ความเสียหายต่อทรัพย์สิน และภาพลักษณ์ที่ไม่ดีของเมือง
  • ระบบระบายน้ำและการจัดการน้ำท่วมที่มีประสิทธิภาพ ปัญหาน้ำท่วมขังและน้ำท่วมซ้ำซากสร้างความเดือดร้อนมหาศาล ประชาชนต้องการเห็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ไม่ว่าจะเป็น การลอกท่อระบายน้ำอย่างสม่ำเสมอและทั่วถึง, การปรับปรุงระบบระบายน้ำให้สามารถรองรับปริมาณน้ำฝนได้จริง รวมถึงการตรวจสอบประสิทธิภาพของประตูระบายน้ำ, และการเตรียมความพร้อมเชิงรุกก่อนถึงฤดูฝน เพื่อลดความเสียหายต่อทรัพย์สิน สุขภาพ และการดำเนินชีวิต
  • น้ำประปาที่สะอาดและเพียงพอ ความต้องการพื้นฐานคือ น้ำประปาที่ใสสะอาด ปลอดภัยสำหรับการอุปโภคบริโภคโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องกรองน้ำ รวมถึงแรงดันน้ำที่สม่ำเสมอและไหลตลอดเวลา ไม่ขาดแคลน ปัญหาเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อสุขอนามัย ค่าใช้จ่ายครัวเรือน (ค่าซื้อน้ำดื่ม/เครื่องกรอง) และคุณภาพชีวิตโดยรวม
  • ไฟฟ้า แสงสว่าง และสายสื่อสารที่เป็นระเบียบ ความต้องการด้านไฟฟ้าไม่ได้มีแค่ความสว่าง แต่รวมถึง ความปลอดภัยจากปัญหาสายไฟเก่า ชำรุด หรือการติดตั้งที่อาจก่อให้เกิดอันตราย (ไฟรั่ว) การเพิ่ม ไฟส่องสว่างตามถนนและซอยต่างๆ ให้เพียงพอ โดยเฉพาะในจุดเปลี่ยวหรือรอบนอกเมือง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน นอกจากนี้ ยังมีเสียงเรียกร้องให้จัดระเบียบสายสื่อสารที่รกรุงรัง ซึ่งไม่เพียงบดบังทัศนียภาพ แต่ยังอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ และก้าวไปถึงการนำสายไฟฟ้า/สายสื่อสารลงดินเพื่อเมืองที่สวยงามและปลอดภัยยิ่งขึ้น

สุขภาพดี ชีวิตดี สู่สาธารณสุขและบริการของคนในเมือง

สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ที่ประชาชนกังวล สะท้อนจากผลสำรวจที่ติด 1 ใน 3 ความต้องการสูงสุด ความคาดหวังไม่ใช่แค่การรักษาพยาบาล แต่รวมถึงการส่งเสริมสุขภาพและการเข้าถึงบริการที่เหมาะสม เพราะการลงทุนด้านสาธารณสุขในระดับท้องถิ่น คือการลงทุนในคุณภาพชีวิต ทรัพยากรมนุษย์ และความมั่นคงของชุมชน

  • บริการสาธารณสุขปฐมภูมิที่เข้มแข็งและเข้าถึงง่าย ประชาชนต้องการ ศูนย์บริการสาธารณสุขหรือคลินิกหมอครอบครัวใกล้บ้านที่มีคุณภาพ สามารถดูแลสุขภาพเบื้องต้น ตรวจโรคทั่วไป และให้คำปรึกษาได้ เพื่อลดความแออัดในโรงพยาบาลใหญ่ ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง โดยคาดหวังให้เทศบาลสนับสนุนงบประมาณและทรัพยากรอย่างเหมาะสม
  • ระบบข้อมูลสุขภาพที่เชื่อมโยง การมีระบบข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคลที่ใช้งานได้จริง จะช่วยให้การรักษาต่อเนื่องมีประสิทธิภาพมากขึ้น แพทย์สามารถเข้าถึงประวัติการรักษาที่จำเป็นได้ง่ายขึ้น ลดความซ้ำซ้อนในการตรวจวินิจฉัย
  • การดูแลสุขภาพเชิงรุกและเฉพาะกลุ่ม มีเสียงเรียกร้องให้ความสำคัญกับ การส่งเสริมสุขภาพจิต โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน (เช่น การมีศูนย์ให้คำปรึกษา) รวมถึงการดูแลสุขภาพกลุ่มเปราะบางอื่นๆ

โอกาสและความหวัง ด้วยการพัฒนาปากท้อง เศรษฐกิจ และการศึกษาตามบริบทท้องถิ่น

เป็นที่น่าสังเกตว่า ลำดับความสำคัญของประเด็นด้านเศรษฐกิจและการศึกษา มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนในแต่ละเมือง ซึ่งสะท้อนบริบทและความต้องการเฉพาะถิ่นที่หลากหลาย

  • เศรษฐกิจ การค้า และอาชีพ ความกังวลเรื่องปากท้องปรากฏในหลายรูปแบบ ตั้งแต่การส่งเสริมอาชีพและสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อย การกระตุ้นการค้าและการท่องเที่ยวในท้องถิ่น (อย่างมีทิศทางและยั่งยืน)  การสร้างแหล่งรายได้ใหม่ๆ ให้กับเทศบาล ไปจนถึงการฟื้นฟูย่านการค้าหรือพื้นที่เศรษฐกิจ ที่ซบเซา บางพื้นที่ยังเชื่อมโยงไปถึงความกังวลเรื่องค่าครองชีพหรือราคาสินค้าเกษตร เทศบาลจึงจำเป็นต้องมีนโยบายเศรษฐกิจที่ตอบโจทย์ความท้าทายและศักยภาพของเมืองตนเอง
  • การศึกษาและแหล่งเรียนรู้ ความคาดหวังด้านการศึกษาไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในโรงเรียน แต่รวมถึง คุณภาพการศึกษาโดยรวมที่ทันโลก การพัฒนาห้องสมุดประชาชนที่ทันสมัย น่าใช้งาน มีชีวิตชีวา เป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับทุกคน การสร้างพื้นที่เรียนรู้ร่วม (Co-working Space) เพื่อสนับสนุนการทำงานและการเรียนรู้ยุคใหม่ รวมถึงการอำนวยความสะดวกด้านการเดินทางไปโรงเรียน เช่น การจัดรถโรงเรียน ในเมืองที่การศึกษามีบทบาทสำคัญ ความคาดหวังในด้านนี้ก็จะยิ่งสูงขึ้น

จากการวิเคราะห์ความต้องการระดับเมืองที่มีความหลากหลาย จึงอาจกล่าวได้ว่าการพัฒนานโยบายนี้ให้ตอบสนองความต้องการของประชาชนจึงอาศัยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในอัตลักษณ์ ศักยภาพ และความต้องการของแต่ละพื้นที่ เพื่อสร้างโอกาสและความหวังให้กับประชาชนได้อย่างแท้จริง

Made with Flourish

คุณภาพชีวิตที่คนเมืองจับต้องได้ สิ่งแวดล้อม การเดินทาง และความเป็นระเบียบเรียบร้อย

แม้เรื่องนี้จะไม่ถูกจัดให้เป็นความสำคัญสูงสุดจากการสำรวจแต่ประเด็นเหล่านี้กลับเป็นสิ่งที่ประชาชนสัมผัสและประสบโดยตรงในชีวิตประจำวัน

  • สิ่งแวดล้อมที่ดีเพื่อคุณภาพชีวิต
    • การจัดการขยะ ปัญหาถังขยะไม่เพียงพอและระบบการจัดเก็บขยะที่ไม่มีประสิทธิภาพส่งผลให้เกิดภาพขยะล้นเมือง สกปรก และส่งกลิ่นเหม็นรบกวน
    • คุณภาพอากาศ ฝุ่นพิษ PM2.5 คือภัยเงียบที่บั่นทอนสุขภาพ ประชาชนต้องการเห็นมาตรการแก้ไขที่จริงจังและยั่งยืน รวมถึงการมีเครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศที่เข้าถึงได้
    • พื้นที่สีเขียวและนันทนาการ ไม่ใช่แค่ความสวยงาม แต่คือปอดของเมืองที่ประชาชนต้องการใช้เป็นที่พักผ่อน ออกกำลังกาย พบปะสังสรรค์ (สวนสาธารณะที่เข้าถึงง่าย ดูแลดี มีร่มเงา และอาจเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง)
    • การจัดการน้ำเสียและแหล่งน้ำ การฟื้นฟูคลอง (เช่น คลองแม่ข่า) และการมี ระบบบำบัดน้ำเสียชุมชนที่มีประสิทธิภาพ เป็นสิ่งจำเป็นต่อสุขอนามัยและระบบนิเวศ
    • ปัญหาสัตว์รบกวน นกพิราบและสุนัขจรจัดที่มีจำนวนมากเกินไป สร้างความเดือดร้อน รำคาญ และอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัย
  • การเดินทางสัญจรที่สะดวกและปลอดภัย
    • ระบบขนส่งสาธารณะความต้องการขนส่งมวลชนที่มีคุณภาพ ราคาเข้าถึงได้ มีเส้นทางครอบคลุม และมีความถี่เพียงพอ (โดยเฉพาะช่วงเร่งด่วนและกลางคืน) ยังคงเป็นเสียงเรียกร้องสำคัญ เพื่อลดการใช้รถส่วนตัว ลดปัญหามลพิษและการจราจร
    • การจัดการจราจรปัญหารถติดที่สิ้นเปลืองเวลาและพลังงานสัญญาณไฟจราจรที่ไม่สัมพันธ์กันหรือ ขาดตัวนับเวลาถอยหลัง สร้างความสับสนและอันตราย การจอดรถไม่เป็นระเบียบ (ซ้อนคัน, บนทางเท้า) กีดขวางการสัญจร ทั้งหมดนี้ต้องการการแก้ไขอย่างเป็นระบบ
    • ความปลอดภัยทางถนน เป็นความกังวลร่วม ทั้งจากสภาพถนน การขาดแสงสว่าง หรือพฤติกรรมการขับขี่
  • ความเป็นระเบียบเรียบร้อยและความปลอดภัยในเมืองยกระดับคุณภาพชีวิตที่ประชาชนสัมผัสได้จริงในทุกวัน ลดความเครียด และสร้างเมืองที่น่าอยู่ ปลอดภัย และมีสุขภาวะที่ดี
    • การจัดการปัญหาเสียงดังจากสถานบันเทิงหรือกิจกรรมอื่นๆ ที่รบกวนความเป็นอยู่
    • ทัศนียภาพและความสะอาดการจัดระเบียบสายสื่อสาร การดูแลความสะอาดของพื้นที่สาธารณะ การจัดการหาบเร่แผงลอย
    • การบังคับใช้กฎระเบียบ เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบในการอยู่ร่วมกัน เช่น การควบคุมอาคาร การควบคุมกิจการที่เป็นอันตราย

เมืองโปร่งใสและมีส่วนร่วมคนท้องถิ่นขอมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการเมือง

ท้ายที่สุด สิ่งที่ประชาชนในแต่ละเมืองคาดหวังไม่ใช่แค่ผลลัพธ์ แต่คาดหวังกระบวนการและวิธีการทำงาน ของเทศบาลที่มีประสิทธิภาพและเปิดการมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง เพราะธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการ คือหลักประกันว่าทรัพยากรของท้องถิ่นจะถูกใช้อย่างคุ้มค่า การพัฒนาจะเป็นไปเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม และประชาชนจะรู้สึกเป็นเจ้าของเมืองร่วมกันจากการประมวลพบว่าคนท้องถิ่นต้องการ

  • ความรวดเร็วและประสิทธิภาพ ประชาชนต้องการเห็นการตอบสนองและแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงที (ทำทันที, เร่งดำเนินการ), การดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จตามกำหนดและกระบวนการทำงานที่ไม่ล่าช้า
  • ความโปร่งใส ตรวจสอบได้ การเปิดเผยข้อมูล การดำเนินงานและงบประมาณ (Opendata) การสื่อสารที่ชัดเจน ช่วยสร้างความไว้วางใจและลดข้อกังขา
  • การรับฟังและมีส่วนร่วม การเปิดช่องทางรับฟังความคิดเห็น ข้อร้องเรียน ข้อเสนอแนะที่มีประสิทธิภาพ การทำงานร่วมกับภาคประชาสังคม เอกชน และภาคส่วนอื่นๆ (รวบรวมภาคีเครือข่าย) และการ ประสานงานที่ดีกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง
  • ความซื่อสัตย์สุจริตการบริหารงานที่ปราศจากการทุจริตคอร์รัปชัน (หยุดซื้อเสียง) เป็นพื้นฐานสำคัญของความไว้วางใจ

เสียงสะท้อนจากประชาชนที่ประมวลมานี้ ชี้ให้เห็นภาพความต้องการที่ซับซ้อนและหลากหลาย การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณสุขยังคงเป็นเรื่องเร่งด่วนอันดับต้นๆ ขณะที่ความสำคัญของประเด็นเศรษฐกิจและการศึกษานั้นแตกต่างกันไปตามบริบทเฉพาะถิ่น นอกจากนี้ ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม การคมนาคมขนส่ง และความเป็นระเบียบเรียบร้อย คือสิ่งที่ประชาชนสัมผัสโดยตรงและส่งผลต่อคุณภาพชีวิตประจำวันอย่างยิ่ง การจะตอบสนองความต้องการเหล่านี้ได้ เทศบาลจำเป็นต้องบริหารจัดการด้วยความโปร่งใส มีประสิทธิภาพ รับฟังเสียงประชาชนอย่างแท้จริง และทำงานเชิงรุก การทำความเข้าใจภาพรวมความต้องการที่เจาะลึกนี้ และนำไปสู่การวางแผนและปฏิบัติอย่างจริงจัง คือก้าวสำคัญในการสร้างเมืองที่น่าอยู่ มีคุณภาพชีวิตที่ดี และเป็นเมืองที่ประชาชนทุกคนภาคภูมิใจ

ทุกคนที่ใช้ชีวิตในเมืองสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการบอกความต้องการที่ตอบสนองคนพื้นที่และคนที่ใช้ชีวิตในเมืองของตัวเองได้ และร่วมบอกสิ่งที่ผู้นำท้องถิ่นร่วมกันคนในพื้นที่ช่วยกันจัดการ หรือเข้าแพลตฟอร์ม เทศบาลใกล้ฉัน ที่เปิดให้ทุกท่านเข้าไปสำรวจงบประมาณ และร่วมออกแบบการใช้งบประมาณท้องถิ่น

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

แชร์บทความนี้